เวลาได้ยินคำว่าความยืดหยุ่น คุณพ่อคุณแม่คิดว่ามันคืออะไรและสำคัญต่อการเลี้ยงลูกอย่างไรบ้าง
ความยืดหยุ่นในเชิงจิตวิทยา (Resilience) คือ การปรับตัว การฟื้นคืนกลับมามีความสุขได้หลังจากสถานการณ์ที่เลวร้าย ความยืดหยุ่นจึงมีความสำคัญต่อจิตใจของคนเรา ถือเป็นสกิลสำคัญที่ทำให้เรารับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นกับชีวิตได้ เมื่อล้มก็กลับมาลุกขึ้นยืนได้ ไม่เสียเวลาอยู่กับความเครียดหรือความวิตกกังวลมากและนานเกินไป
ความยืดหยุ่น ไม่ได้มีความสำคัญกับผู้ใหญ่เท่านั้น แต่เด็กๆ ก็สามารถเจอเรื่องที่ทำให้ผิดหวัง เสียใจ และมีปัญหาในแบบของตัวเองเช่นเดียวกัน
M.O.M จึงได้นำแนวคิด 7C’s ที่ว่าด้วยความยืดหยุ่นมาฝากคุณพ่อคุณแม่เพื่อที่จะสามารถนำไปประยุกต์ใช้สอนให้ลูกเติบโตขึ้นอย่างคนที่สามารถรับมือและแก้ปัญหาที่เข้ามาในชีวิตได้
1. Competence
คือความสามารถในการจัดการสถานการณ์ได้ดี ไม่ว่าจะการแก้ปัญหาเฉพาะหน้า การรับมือกับเหตุการณ์ไม่ดีที่เกิดขึ้น ว่าเราจะจัดการกับสิ่งที่เกิดขึ้นประคองให้ไม่แย่ไปกว่าเดิมอย่างไร
คุณพ่อคุณแม่สามารถสอนลูกได้ด้วยการปล่อยให้ลูกเผชิญกับความผิดพลาดบางอย่างที่เกิดขึ้นในชีวิตบ้าง ไม่ปกป้องลูกมากเกินไป รวมถึงเปิดโอกาสและสนับสนุนให้ลูกรู้จักแก้ไขปัญหาด้วยตัวเอง โดยมีคุณพ่อคุณแม่คอยเป็นที่ปรึกษาและอยู่เคียงข้าง
2. Confidence
ถ้าเด็กเติบโตอย่างคนที่ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง ก็จะทำให้กลายเป็นคนที่ไม่กล้าทำอะไรด้วยตัวเอง ไม่กล้าริเริ่มหรือสร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ รวมถึงหากเขาเจอกับปัญหาก็จะไม่สามารถรับมือได้เพราะคิดว่าตัวเองไม่มีความสามารถมากพอ
การจะช่วยเสริมสร้างความมั่นใจให้กับลูกนั้นไม่ใช่เรื่องยากคุณพ่อคุณแม่เพียงแค่คอยสนับสนุนในสิ่งที่ลูกรักและอยากทำ คอยให้กำลังใจและชื่นชมในความพยายาม ความกล้าคิดกล้าทำของลูกได้โดยไม่จำเป็นต้องรอให้ลูกประสบความสำเร็จอย่างเดียวเท่านั้น เท่านี้ก็มีส่วนช่วยให้ลูกเติบโตอย่างคนที่มีความมั่นใจได้แล้ว
3. Connection
ความสัมพันธ์ เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้สำหรับการใช้ชีวิตอยู่ในสังคม โดยเฉพาะสังคมขนาดเล็กที่สำคัญที่สุดอย่างครอบครัว การหมั่นเอาใจใส่ คอยให้ความช่วยเหลือ และดูแลซึ่งกันและกัน ด้วยสภาพแวดล้อมแบบนี้ จะทำให้เด็กมีอารมณ์และความรู้สึกมั่นคง มองโลกในแง่บวก และพร้อมที่จะจัดการความรู้สึกต่างๆ หากเจอเรื่องร้ายๆ ที่ผ่านเข้ามาได้ดี
การเริ่มต้นสร้างความสัมพันธ์ในครอบครัว นอกจากจะเป็นไปเองตามธรรมชาติแล้ว คุณพ่อคุณแม่ควรอนุญาตให้ลูกแสดงความรู้สึกและอารมณ์ของตัวเองออกมาให้คนในครอบครัวรับรู้ รวมถึงการแสดงให้เห็นว่าความสัมพันธ์ในครอบครัวนั้นสำคัญ หากใครมีปัญหา ทุกคนก็พร้อมที่จะรับฟังและยื่นมือเข้ามาให้ความช่วยเหลือเสมอ
4. Character
บุคลิกและอุปนิสัยเป็นเรื่องสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกเห็น เพื่อให้ลูกเรียนรู้ว่าควรหรือไม่ควรปฏิบัติตัวกับคนอื่นอย่างไร รวมถึงการให้ลูกได้เรียนรู้บุคลิกและอุปนิสัยที่ตัวเองไม่ชอบจากคนอื่น เพื่อระมัดระวังไม่ให้ตัวเองมีพฤติกรรมเช่นเดียวกัน
5. Contribution
การสนับสนุนและส่งเสริมลูกเป็นเรื่องสำคัญ โดยเฉพาะการสนับสนุนให้ลูกรู้ว่าตัวเขาเองมีความสำคัญต่อครอบครัวและโลกใบนี้อย่างไร เพื่อให้ลูกเรียนรู้ที่จะมีความรับผิดชอบทั้งกับตนเองและกับคนอื่นมากขึ้น
6. Coping
มาต่อกันที่การรับมือ หากเด็กรู้จักการรับมือกับปัญหาต่างๆ ได้ดี ลูกก็จะรู้จักกำจัดความเครียดที่ไม่จำเป็นออกไปจากชีวิต คุณพ่อคุณแม่อาจสอนลูกด้วยวิธีสร้างเหตุการณ์สมมติ เช่น หากเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นลูกคิดว่าจะทำอย่างไร หรือถ้าทำแบบนี้จะเกิดเหตุการณ์อะไรต่อไปบ้าง เพื่อให้ลูกรู้จักคิดและเตรียมตัวรับมือกับปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
7. Control
การทำให้ลูกรู้สึกมั่นใจว่าเขาสามารถรับมือและควบคุมสถานการณ์ได้ จะทำให้ลูก ไม่รู้สึกอ่อนแอ หดหู่ หรือจมอยู่กับปัญหา คุณพ่อคุณแม่อาจใช้วิธีให้กำลังใจและสร้างความเชื่อมั่นให้ลูก ด้วยการบอกลูกว่าคุณรู้สึกภูมิใจในตัวเขา และกระตุ้นให้ลูกมั่นใจว่าปัญหาต่างๆ ไม่ยากเกินความสามารถที่ลูกจะลงมือแก้ไข
COMMENTS ARE OFF THIS POST