ผลการศึกษาใหม่ โดยนักวิจัยที่มหาวิทยาลัยเดอรัม ในอังกฤษ ได้อัลตราซาวนด์ 4 มิติ สแกนท้องหญิงตั้งครรภ์จำนวน 100 คน เพื่อศึกษาปฏิกิริยาตอบสนองทางอารมณ์ของทารกในครรภ์ หลังจากแม่ได้รับประทานอาหารที่แตกต่างกันเป็นเวลา 20 นาที ทั้งมื้อเช้า กลางวัน และเย็น พบว่า อาหารที่แม่รับประทานที่แตกต่างกันนั้น ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางอารมณ์ของทารกน้อยในครรภ์อย่างน่าทึ่ง

ผลการศึกษาใหม่นี้ที่ได้รับการตีพิมพ์ลงในวารสาร ‘Psychological Science’ ระบุว่า แม่ที่กำลังตั้งครรภ์ หลังจากกิน ‘แคร์รอต’ แล้ว ทำให้ทารกน้อยในครรภ์หัวเราะยิ้มแย้มออกมาอย่างมีความสุข แต่หากแม่กินผักเคล หรือ คะน้าใบหยิก ปรากฏว่า ทารกน้อยถึงกับร้องไห้เลยทีเดียว

“มีการศึกษาจำนวนหนึ่งชี้ว่าทารกในครรภ์สามารถรับรู้รสและกลิ่น ขณะอยู่ในมดลูกของแม่ แต่การศึกษาเหล่านั้นขึ้นอยู่กับผลลัพธ์หลังคลอด ในขณะที่การศึกษาของพวกเราในครั้งนี้นับเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นปฏิกิริยาของทารกในครรภ์ก่อนคลอด หลังแม่รับประทานอาหารที่แตกต่างกัน” Beyza Ustun นักศึกษาปริญญาเอกที่มหาวิทยาลัยเดอรัม กล่าว ในขณะที่การวิจัยชิ้นนี้ ถือเป็นครั้งแรกของโลก ที่มีการศึกษาปฏิกิริยาของทารกในครรภ์ต่อการรู้รสและกลิ่น ก่อนที่เด็กเหล่านี้จะลืมตาดูโลก

ทั้งนี้ การวิจัยใหม่ในอังกฤษครั้งนี้ ได้ทำการวิจัยกับ หญิงอายุระหว่าง 18-40 ปี ซึ่งตั้งครรภ์เป็นเวลา 32 และ 36 สัปดาห์ โดยได้ให้กินแคปซูลบรรจุผงแคร์รอต และผงเคล ปริมาณ 40 มิลลิกรัม จำนวน 1 เม็ด เป็นเวลาประมาณ 20 นาที จากนั้นจึงทำอัลตราซาวนด์ 4 มิติ สแกนท้อง โดยแคปซูลบรรจุผงแคร์รอตหรือผงเคลนั้น เป็นสิ่งเดียวที่แม่เหล่านี้ได้กิน หลังจากไม่ได้กินอะไรเลยหรือไม่ได้ดื่มเครื่องดื่มอะไรเป็นเวลาอย่างน้อย 1 ชั่วโมง อีกทั้งก็ไม่ได้กินแครอทหรือผักเคลเป็นส่วนประกอบในวันนั้นเลย

อ้างอิง
thairath