สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน อ้างอิงรายงานของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ดและวารสารเดอะวอลล์สตรีทเจอร์นัล (The Wall Street Journal) ว่า อินสตาแกรม (Instagram) ได้กลายเป็นช่องทางหลักของเครือข่ายผู้มีความไคร่กับเด็กในการเผยแพร่สื่อที่มีเนื้อหาอนาจารและล่วงละเมิดทางเพศเยาวชน

นักวิจัยจากศูนย์นโยบายไซเบอร์ มหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด กล่าวว่า เครือข่ายบัญชีจำนวนมากที่ดูเหมือนว่าอยู่ภายใต้การควบคุมของผู้เยาว์ได้โฆษณาเนื้อหาทางเพศที่ผลิตด้วยตัวเองสำหรับวางขายอย่างเปิดเผย ปัจจุบันอินสตาแกรมกลายเป็นแพลตฟอร์มที่สำคัญที่สุดสำหรับเครือข่ายเหล่านี้ เนื่องจากฟีเจอร์ต่างๆ ของแอปฯ เช่น อัลกอริทึมที่แนะนำเนื้อหาที่ผู้ใช้ชื่นชอบและการส่งข้อความที่ใช้ให้ผู้ซื้อติดต่อกับผู้ขายได้โดยตรง

รายงานดังกล่าวระบุอีกว่า เพียงแค่พิมพ์คำง่ายๆ ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องทางเพศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง คำที่เกี่ยวข้องกับเยาวชนในช่องค้นหาของอินสตาแกรมก็จะสามารถนำไปสู่บัญชีที่ใช้คำเหล่านั้นในการโฆษณาเนื้อหาการคุกคามทางเพศเด็ก

โดยบัญชีเหล่านี้ที่มีการใช้นามแฝงทางเพศอย่างเปิดเผยมักอ้างว่าอยู่ภายใต้การควบคุมของตัวเด็กเอง อีกทั้งยังมีแถบเมนูเพื่อซื้อขายรูปภาพอนาจารของเยาวชน แม้ว่าจะไม่ได้ระบุอย่างเฉพาะเจาะจงว่าวางขายรูปภาพดังกล่าว

นักวิจัยของสแตนฟอร์ดยังพบข้อเสนอขายวิดีโออนาจารอื่นๆ เช่น วิดีโอการมีเพศสัมพันธ์กับสัตว์ และวิดีโอการทำร้ายตัวเอง และหากผู้ซื้อจ่ายเงินในราคาที่ถูกตั้งไว้ก็สามารถนัดพบกับเยาวชนตัวต่อตัวได้

ด้านเมตา (Meta) บริษัทแม่ของอินสตาแกรมไม่ได้ตอบสนองต่อข้อเรียกร้องในการแสดงความเห็นต่อประเด็นดังกล่าว

อย่างไรก็ดี รายงานระบุว่า เมตารับทราบปัญหาภายในระบบรักษาความปลอดภัยของตนแล้ว และกล่าวว่าได้จัดตั้งหน่วยงานเพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดขึ้น

อ้างอิง
matichon