วันที่ 11 พฤศจิกายนนี้ ขอแนะนำให้ผู้ปกครองพาบุตรหลานไปเที่ยวงานลอยกระทงดูแลบุตรหลานอย่างใกล้ชิด
ในงานลอยกระทงทุกปีจะพบผู้เสียชีวิตจากการจมน้ำ เฉพาะช่วงวันก่อนลอยกระทง วันลอยกระทง และวันหลังลอยกระทง ในช่วง 5 ปีที่ผ่านมาพบว่ามีเด็กต่ำกว่า 15 ปีเสียชีวิตจากการจมน้ำ และในปีที่ผ่านมาปีเดียว มีเด็กต่ำกว่า 15 ปีเสียชีวิต 5 ราย และเด็กบางคนได้รับอุบัติเหตุจากการจุดประทัด ดอกไม้ไฟ พลุ ทำให้ได้รับบาดเจ็บ
กรมควบคุมโรคออกคำแนะนำป้องกันการจมน้ำ ให้ยึดหลัก 3 อย่า
1. อย่าใกล้: อย่ายืนใกล้ขอบบ่อ
2. อย่าเก็บ: อย่าลงน้ำไปเก็บเงินในกระทง
3. อย่าก้ม: อย่าก้มไปลอยกระทง
พ่อแม่ผู้ปกครองต้องดูแลเด็กไม่ให้คลาดสายตา และเพิ่มความระมัดระวังเมื่อเด็กต่ำกว่า 5 ปีอยู่ใกล้แหล่งน้ำ พ่อแม่ผู้ปกครองต้องอยู่ในระยะแขนที่เอื้อมถึงเด็ก ไม่ปล่อยให้เด็กลอยกระทงตามลำพังแม้จะอยู่บนฝั่งหรือลอยในกะละมัง ถังน้ำด้วย
ส่วนเรื่องการจุดประทัด ดอกไม้ไฟ และพลุ ทางกรมควบคุมโรคออกคำแนะนำดังนี้
1. ไม่จุดประทัด พลุ ดอกไม้ไฟ ใกล้วัตถุไวไฟหรืออาคารบ้านเรือน และไม่เล่นผาดโผน อาจเสี่ยงเกิดการระเบิดได้
2. พ่อแม่ผู้ปกครองไม่ควรให้เด็กนำประทัด ดอกไม้ไฟมาจุด ถ้าลูกอยากเล่นให้พ่อแม่จุดแทน
3. ควรอ่านคำแนะนำก่อนและจุดให้ห่างจากตัวประมาณ 1 ช่วงแขน
4. ห้ามพยายามจุดประทัด ดอกไม้ไฟ และพลุที่จุดแล้วไม่ติดอย่างเด็ดขาด
5. ไม่เก็บประทัด ดอกไม้ไฟ และพลุไว้ในกระเป๋าเสื้อ กางเกง
6. ควรเตรียมภาชนะบรรจุน้ำไว้ใกล้ๆ ไว้ใช้กรณีที่เกิดเหตุฉุกเฉิน
7. หากเกิดอุบัติเหตุ นิ้วหรืออวัยวะใดอวัยวะหนึ่งขาดจากแรงระเบิดให้รีบห้ามเลือดบริเวณที่อวัยวะขาด ใช้ผ้าสะอาดปิดบาดแผลและพันบาดแผลให้แน่นเพื่อป้องกันเลือดออก แนะนำว่าไม่ควรใช้เชือกหรือสายรัดเพราะจะทำให้เส้นประสาทหรือหลอดเลือดเสียหายได้ หลังจากปฐมพยาบาลเบื้องต้นเสร็จให้รีบโทรแจ้งขอความช่วยเบอร์ 1669 ทันที
ที่มา
กรมควบคุมโรค
COMMENTS ARE OFF THIS POST