หากลองสังเกตพฤติกรรมของลูกหรือเด็กเล็กให้ดี คุณพ่อคุณแม่จะพบว่า ลูกมักจะมีความรู้สึกผูกพันกับคุณพ่อหรือคุณแม่ที่เป็นเพศตรงกันข้ามกับตัวเองมากกว่า

สาเหตุที่ทำให้ ลูกชายมักจะติดแม่นั้น เป็นไปตามหลักจิตวิทยาที่ว่าด้วยปมอิจฉาหรือ ทฤษฎีเอ็ดดิพุส (The Oedipus Complex) ที่เสนอโดยซิกมุนด์ ฟรอยด์ นักจิตวิทยาผู้ยิ่งใหญ่ในช่วงต้นศตวรรษที่ 20 ส่วนการที่ ลูกสาวติดพ่อ นั้นก็เป็นไปตามทฤษฎีอีเล็กตรา (The Electra Complex) ที่เสนอโดย Carl Jung นักจิตวิเคราะห์ร่วมสมัย

ปมอิจฉาหรือ ‘ปมเอ็ดดิพุส’ เกิดขึ้นเมื่อลูกชายรู้สึกรักคุณแม่มากๆ จึงพยายามเลียนแบบพฤติกรรมของคุณพ่อ เพื่อให้คุณแม่รักและสนใจตัวเองมากที่สุด รวมถึงไม่อยากให้คุณพ่อแสดงความรักกับคุณแม่ เพราะหวงคุณแม่มากๆ อีกด้วย

เช่นเดียวกับปมอิจฉาของเด็กผู้หญิง หรือปมอิเล็กตราที่อธิบายว่า การที่ ลูกสาวติดพ่อ เป็นเพราะความรู้สึกรักและลูกสาวรักคุณพ่อมากๆ เลยเกิดเป็นความอิจฉา อยากเลียนแบบคุณแม่ และอยากครอบครองคุณพ่อไว้แต่เพียงผู้เดียว

ปมอิจฉาทั้งสองอย่างล้วนมีข้อดี เพราะจะช่วยให้ลูกชายกับคุณแม่ และลูกสาวกับคุณพ่อได้ใช้เวลาด้วยกันมากขึ้น โดยเฉพาะลูกในช่วงวัย 3 – 6 ปี

ต่อมา Emily Samuel นักจิตบำบัดแห่ง Yale Study Center ในนิวยอร์ก ระบุว่า การอธิบายเรื่องปมอิจฉาอาจรุนแรงเกินไป ถึงแม้จะเป็นเรื่องที่รับรู้ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่า ลูกชายทุกคนที่ติดแม่จะรู้สึกอิจฉาคุณพ่อ และลูกสาวทุกคนจะอิจฉาคุณแม่เพราะอยากครอบครองคุณพ่อเอาไว้ตามทฤษฎีเพียงอย่างเดียวเท่านั้น เพราะยังมีเหตุผลที่เกี่ยวข้องกับปัจจัยแวดล้อม ปัจจัยทางสังคม วัฒนธรรม และการเลี้ยงดูที่แตกต่างกันในแต่ละครอบครัว

และสำหรับครอบครัวที่มีลูกสาวติดพ่อ จนคุณแม่ชักเริ่มน้อยใจแล้วละก็ เรามีเหตุผลดีๆ ที่จะช่วยไขข้อข้องใจว่าทำไมลูกสาววัยอนุบาลจึงติดคุณพ่อเป็นตังเมได้ขนาดนั้น

1. คุณพ่อมักจะเป็นฝ่ายโอนอ่อนผ่อนตามให้กับลูกสาว

• เพราะคุณพ่อตามใจลูกสาว การศึกษาที่ตีพิมพ์ใน Behavioral Neuroscience ระบุว่า คุณพ่อมักจะตอบสนองและใส่ใจลูกสาวมากกว่าลูกชายในวัยเดียวกัน และเริ่มเอาอกเอาใจลูกสาวตั้งแต่วัยเตาะแตะหรือช่วงที่ลูกเริ่มเรียกหาพ่อเป็นครั้งแรก

เช่นเดียวกับข้อมูลจากทางสมาคมจิตวิทยาอเมริกัน ระบุว่า คุณพ่อมักจะตอบสนองความต้องการ เข้าใจ และรับรู้อารมณ์ของลูกสาวอย่างตรงไปตรงมามากกว่าการแสดงออกต่อลูกชาย นั่นจึงทำให้ดูเหมือนว่า คุณพ่อตามใจลูกสาวมากกว่านั่นเอง

• ความอ่อนโยนของลูกสาวทำให้คุณพ่ออ่อนไหว เมื่อลูกสาวยิ้มกว้าง โลกทั้งใบของคุณพ่อก็มีความสุขตามไปด้วย นั่นยิ่งทำให้คุณพ่อกลายเป็นคนใจอ่อน อ่อนไหว และอยากทำให้ลูกมีความสุขที่สุดเท่าที่จะทำได้

อีกด้านของคุณพ่อที่ชอบตามใจลูก (ทั้งลูกสาวและลูกชาย) นั่นเป็นเพราะคุณพ่ออยากชดเชยเวลาที่เสียไปจากการทำงานให้กับลูก เมื่อมีเวลาได้อยู่กับลูก จึงอยากทำให้ลูกมีแต่รอยยิ้ม

2. คุณพ่อมักจะเล่นสนุกสุดเหวี่ยงและช่วยสอนบทเรียนอีกด้าน

คุณพ่อคือคนที่ช่วยกระตุ้นความแข็งแกร่งให้กับลูกสาว คุณพ่อมักจะชวนลูกสาวเล่นสนุกในแบบที่คุณแม่ไม่เคยทำ และมีบทเรียนชีวิตสอดแทรกอยู่ในทุกการเล่นที่ดูเหมือนจะโลดโผนไปบ้าง แต่ก็ช่วยส่งเสริมให้ลูกสาวได้ประสบการณ์ใหม่ๆ ในชีวิตได้เป็นอย่างดี

3. คุณพ่อคือคนทำลายความเหงา

Xin Feng รองศาสตราจารย์ผู้ร่วมงานวิจัยที่เกี่ยวข้องกับอารมณ์ การควบคุมอารมณ์ และปฏิสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่และลูก ระบุว่า ลูกสาวที่ติดคุณพ่อมักเป็นเด็กร่าเริง จิตใจดี ปรับตัวได้ดี มีแนวโน้มที่จะมีผลการเรียนที่ดี และเติบโตขึ้นเป็นหญิงสาวที่ไม่ค่อยรู้สึกเหงา เนื่องจากคุณพ่อมักจะทำทุกอย่างเพื่อให้ลูกสาวมีความสุข ช่วยปัดเป่าความเศร้าและความเหงา ด้วยสายสัมพันธ์ที่ดี และการฝึกฝนความเข้มแข็งทางจิตใจให้ลูกสาวตั้งแต่ยังเล็ก

4. คุณพ่อคือแบบอย่างของว่าที่สามีที่ดีในอนาคต

เพราะคุณพ่อ คือผู้ชายคนแรกในชีวิตที่ลูกจะได้เรียนรู้และรู้จักอุปนิสัยใจคอ เรียนรู้พฤติกรรม ที่ลูกได้เฝ้าสังเกตอย่างใกล้ชิด ตั้งแต่การกระทำ คำพูด และแนวความคิด ลูกสาวจึงได้เรียนรู้ว่าความรัก ความรักความห่วงใยและความปรารถนาดีที่ได้รับจากเพศตรงข้ามอย่างจริงใจนั้น เป็นอย่างไร

เมื่อเติบโตขึ้น ลูกสาวจะสามารถแยกแยะพฤติกรรมของผู้ชายที่เข้ามาในชีวิตได้ดี เพราะมีคุณพ่อเป็นแบบอย่างและบรรทัดฐานเบื้องต้นนั่นเอง

ที่มา
kidsturncentral.com
verywellmind.com
lifehack.org
thehealthymommy.com