เรารู้กันดีว่านมแม่เป็นอาหารที่วิเศษที่สุดสำหรับทารก เพราะนมแม่อุดมไปด้วยสารอาหารที่ช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้ทารกมีสุขภาพร่างกายแข็งแรง

การให้นมลูก ยังช่วยให้คุณแม่ได้ใกล้ชิดกับลูกน้อย เพื่อสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างแม่กับลูกอีกด้วย โดยปัจจัยสำคัญที่จะช่วยให้คุณแม่มือใหม่เลี้ยงลูกด้วยนมแม่ได้สำเร็จตั้งแต่แรก คือการให้นมลูก โดยให้ลูกดูดนมจากเต้าด้วยวิธีที่ถูกต้อง สำหรับคุณแม่มือใหม่ที่ยังไม่รู้ว่าควรให้นมลูกน้อยอย่างไร วันนี้เรามีคู่มือเสริม! และวิธีให้นมลูกน้อยหลังคลอดด้วยวิธีที่ถูกต้องมาฝากกัน!

1. คุณแม่ควรให้ลูกดูดนมให้เร็วที่สุดภายใน 1-2 ชั่วโมง
หลังคลอด

หลังคลอด คุณแม่ควรให้ลูกได้ดูดนมแม่ให้เร็วที่สุดภายใน 1-2 ชั่วโมง แม้อาจจะยังไม่มีน้ำนมในตอนแรก แต่การให้ลูกดูดนมทันทีหลังคลอดจะช่วยสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างแม่ลูก และช่วยให้ลูกคุ้นเคยกับการดูดนมแม่มากขึ้น

3 ข้อสำคัญที่คุณแม่ต้องรู้ เกี่ยวกับการให้นมลูก

1. ควรให้ลูกดูดนมอย่างเร็วสุด

แม้ว่าหลังคลอดคุณแม่อาจจะยังไม่มีน้ำนมในทันที แต่การให้นมลูก โดยการให้ลูกดูดนมภายในหนึ่งชั่วโมงแรก จะช่วยกระตุ้นให้คุณแม่มีน้ำนมมาเร็วมากขึ้น

2. ควรให้ลูกดูดนมอย่างถูกวิธี

การให้นมลูก โดยการให้ลูกเข้าเต้าอย่างถูกวิธีก็เป็นเรื่องสำคัญ เพราะหากลูกเข้าเต้าอย่างถูกต้อง ก็จะทำให้ลูกดูดน้ำนมได้เพียงพอกับความต้องการของตัวเอง และคุณแม่ก็จะไม่เจ็บเต้านมเมื่อต้องให้นมลูกในครั้งต่อไปอีกด้วย

3. ควรให้ลูกดูดนมบ่อยๆ

การให้นมลูกในช่วงแรกเกิด ถึง 1 เดือน ลูกควรได้ดูดนมแม่บ่อยเท่าที่ต้องการ หรืออย่างน้อยวันละ 8 ครั้ง เพื่อให้ลูกได้รับสารอาหารครบถ้วน และกระตุ้นให้ร่างกายแม่ผลิตปริมาณน้ำนมเวลาต้องให้นมลูกได้มากขึ้นอีกด้วย

สำหรับคุณแม่มือใหม่ที่เพิ่งเริ่มให้นมลูกและกลัวว่าตัวเองจะจำไม่ได้ว่า ในหนึ่งวันให้นมลูกไปแล้วกี่ครั้ง แอปพลิเคชันที่น่าสนใจ อย่าง ALive Powered by AIA ก็มีฟีเจอร์ “บันทึกการให้นม” ที่คุณแม่สามารถเข้ามาบันทึกการให้นมลูกในแต่ละวันได้ นอกจากนี้ยังมีเคล็ดลับน่ารู้เกี่ยวกับการให้นมลูกให้คุณแม่ได้เข้าไปศึกษาเพิ่มเติมได้อย่างสะดวกสบายอีกด้วยนะ แถมยังช่วยประหยัดเวลา ทำให้คุณแม่ไม่ต้องคอยนับว่าให้นมลูกไปกี่ครั้งแล้ว ให้มากหรือน้อยเกินไปหรือเปล่า? แค่มีตัวช่วยดีๆ แบบนี้ก็ช่วยให้คุณแม่มือใหม่รู้สึกอุ่นใจมากยิ่งขึ้นแล้ว!

2. คุณแม่ควรรู้วิธีการให้นมลูกที่ถูกต้อง

หากวิธีและท่าทางการให้นมลูกไม่ถูกต้อง ก็จะทำให้ประสิทธิภาพในการให้นมลูกและเวลาที่ลูกดูดนมลดลงและทำให้คุณแม่บาดเจ็บที่หัวนมได้ การอุ้มลูกเข้าเต้าอย่างถูกวิธีจะช่วยให้ลูกดูดและกลืนน้ำนมได้ดี ดังนั้น คุณแม่จึงควรเลือกท่าให้นมลูกที่ถนัด ผ่อนคลายและเหมาะสมกับคุณแม่มากที่สุด

อุ้มลูกน้อยยังไง เมื่อคุณแม่ต้องให้นมลูก

• ขณะให้นมลูก ควรอุ้มลูกให้ศีรษะและลำตัวอยู่ในแนวตรง คอและแขนไม่บิด

• ใบหน้าลูกอยู่ระดับเดียวกับเต้านมของคุณแม่ และจมูกของลูกอยู่ตรงกับหัวนมคุณแม่

• ควรให้นมลูก ด้วยการอุ้มลูกให้แนบชิดกับตัวคุณแม่มากที่สุด

• หากให้นมลูก ในกรณีลูกน้อยเป็นทารกแรกเกิด ควรมีการรองรับตั้งแต่ศีรษะ คอ หลัง และก้นของทารก

3. สัญญาณที่บอกว่าลูกดูดนมแม่ได้ถูกวิธี 

คุณแม่หลายคนอาจจะกังวลและไม่แน่ใจว่าวิธีการให้นมลูกแบบนี้ถูกต้องหรือเปล่า คุณแม่ลองมาสังเกตกันเลยว่า หากคุณแม่ให้นมลูกด้วยวิธีที่ถูกต้อง ลูกจะมีลักษณะท่าทางยังไงบ้าง!

• ปากของลูกจะอมลานนมด้านล่างได้มากกว่าด้านบน โดยจะเห็นลานนมอยู่เหนือริมฝีปากลูก ส่วนลานนมด้านล่างจะถูกอมเกือบมิด

• ลูกจะอ้าปากกว้าง ริมฝีปากบานออกเหมือนปากปลา คางจะแนบชิดกับเต้านมแม่

• หากให้นมลูกถูกวิธี คุณแม่จะไม่เจ็บหัวนมเวลาที่ลูกดูดนม

4. 6 เดือนแรกควรให้นมลูกด้วยน้ำนมแม่เท่านั้น 

ในช่วง 6 เดือนแรกหลังคลอด คุณแม่ควรให้นมลูก ด้วยน้ำนมแม่เท่านั้น เนื่องจากสารอาหารในน้ำนมแม่มีมากเพียงพอต่อการเจริญเติบโตของลูกน้อย รวมถึงยังมีภูมิคุ้มกันช่วยให้ลูกสุขภาพสมบูรณ์แข็งแรงได้ โดยไม่จำเป็นต้องให้ลูกกินอาหารอื่นๆ

5. ลูกน้อยสามารถดูดนมแม่ได้บ่อยตามต้องการ 

เด็กทารกอาจหิวบ่อย เพราะเป็นช่วงที่ร่างกายกำลังเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว ดังนั้น คุณแม่สามารถให้นมลูกได้บ่อยครั้งตามความต้องการของลูก หรือประมาณ 8-12 ครั้งต่อวัน หรือเว้นระยะห่างไม่เกิน 3 ชั่วโมง เพื่อให้ลูกได้รับสารอาหารอย่างเพียงพอ และกระตุ้นน้ำนมคุณแม่ ช่วยลดปัญหาเต้านมคัดได้

สำหรับคุณแม่คนไหนที่ต้องการตัวช่วยดี ๆ หรือต้องการจำบันทึกว่าวันนี้ให้นมลูกไปแล้วกี่ครั้งแล้ว เพียงพอต่อความต้องการของลูกแล้วหรือยัง? ก็สามารถดาวน์โหลดแอป ALive Powered by AIA เพื่อช่วยจดบันทึกการให้นมลูกในแต่ละวันหรือศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธีการให้นมลูกจากผู้เชี่ยวชาญก็ยังได้

6. คุณแม่ควรให้ลูกดูดนมจากเต้าเท่านั้น 

การให้นมลูกน้อยหรือทารกแรกเกิด คุณแม่ควรให้ลูกได้ดูดจากการเข้าเต้าและไม่ควรใช้หัวนมยางจากขวดนมหรือหัวนมปลอมเด็ดขาด เพราะจะทำให้ลูกไม่คุ้นเคยกับจังหวะการดูดนมจากเต้านมแม่ สร้างความสับสนและลูกน้อยอาจปฏิเสธการดูดนมจากเต้าของคุณแม่ได้

7. ดูแลเต้านมและหัวนมให้อ่อนนุ่มอยู่เสมอ 

เมื่อต้องให้นมลูกเป็นประจำ คุณแม่ควรหมั่นดูแลเต้านมและหัวนมอยู่เสมอ หากรู้สึกปวดเต้านมหรือมีอาการเต้านมคัด ควรใช้ผ้าชุบน้ำอุ่นประคบอาการปวดเต้านมก็จะลดน้อยลงและทำให้น้ำนมไหลดีขึ้น หรือถ้าหากมีอาการหัวนมแตกสามารถใช้น้ำนมถูเบาๆ ที่หัวนมเพื่อลดการอักเสบได้ แต่คุณแม่ไม่ควรทำความสะอาดหัวนมบ่อยเกินไป เพราะอาจทำให้ผิวบริเวณหัวนมแห้งมากขึ้นได้

ปัญหาที่คุณแม่มือใหม่ต้อง เมื่อต้องให้นมลูกน้อย

1. เจ็บหัวนมหรือหัวนมแตก

อาการเจ็บหัวนมหรือหัวนมแตก มักเกิดจากสาเหตุการอุ้มลูกหรือให้นมลูกไม่ถูกวิธี ทำให้ลูกดูดน้ำนมจากหัวนมแต่ไม่ถึงลานนมของคุณแม่ หรือมาจากการปั๊มนมไม่ถูกวิธี เช่น เร่งความเร็วในการปั๊มนมมากเกินไป ก็อาจจะเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดอาการเจ็บและหัวนมแตกได้

2. เต้านมคัด

อาการเต้านมคัดเกิดจากการเว้นระยะการให้นมลูกนานเกินไป ทำให้คุณแม่ไม่ได้ระบายน้ำนม และมีปริมาณน้ำนมสะสมในเต้านมค่อนข้างเยอะ จนทำให้คุณแม่เกิดอาการคัดเต้านมได้

3. เต้านมอักเสบ

เต้านมอักเสบเป็นภาวะที่อาจเกิดจากลูกดูดนมไม่หมดเต้าเมื่อคุณแม่ให้นมลูก ทำให้ท่อน้ำนมอุดตัน และคุณแม่จะมีอาการเจ็บหรือปวดร้อนบริเวณเต้านม

การให้นมลูก เป็นหนึ่งกิจกรรมที่จะช่วยให้คุณแม่มีโอกาสใกล้ชิดกับลูกมากขึ้นและยังเป็นโอกาสที่แม่จะได้บอกรักและสร้างสายสัมพันธ์ที่ดีระหว่างแม่กับลูกผ่านการสัมผัสระหว่างการให้นมลูกอีกด้วย และสิ่งสำคัญอีกหนึ่งอย่างที่คุณแม่ไม่ควรมองข้ามเลยก็คือ การให้นมลูกด้วยวิธีที่ถูกต้อง โดยเฉพาะในช่วงแรกเกิดหรือ 6 เดือนแรก รวมถึงการให้ลูกได้ดูดนมแม่บ่อยครั้งได้ตามที่ลูกต้องการ จะช่วยให้ลูกแข็งแรงและได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน

สำหรับคุณแม่คนไหนที่ต้องการตัวช่วยดีๆ ในการให้นมลูก หรือกลัวว่าจะลืมว่าวันนี้ให้นมลูกไปกี่ครั้งแล้วหรือปั้มนมลูกไปแล้วกี่ออนซ์ ก็สามารถเข้ามาใช้งานฟีเจอร์ “บันทึกการให้นม” จาก ALive Powered by AIA แอปพลิเคชันสำหรับคุณแม่มือใหม่ได้! เรียกว่าเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยบันทึกความจำสำหรับคุณแม่ให้นมลูกได้เป็นอย่างดีเลยล่ะ

นอกจากนี้คุณแม่มือใหม่และมือเก่า ยังสามารถศึกษาหาความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเลี้ยงลูก และพูดคุยกับพยาบาลผู้เชี่ยวชาญภายในแอปพลิเคชัน ALive Powered by AIA เพื่อขอคำปรึกษาตั้งแต่การเตรียมการตั้งครรภ์ ตลอดไปจนถึงสุขภาพของลูกและคนในครอบครัวอย่างใกล้ชิดได้อีกด้วย

ดาวน์โหลดแอป ALive Powered by AIA ได้ที่ >> App Store & Google Play Store