หนึ่งในช่วงเวลาทองที่คุณพ่อคุณแม่ควรใช้พูดคุยกับลูกวัยเริ่มเข้าโรงเรียน ก็คือตอนไปรับลูกกลับจากโรงเรียน แต่บางทีช่วงเวลานั้น คุณพ่อคุณแม่อาจเหนื่อยจากการทำงาน หรืออารมณ์เสียกับการจราจร พอนึกได้ว่าอยากชวนลูกคุยก็ ไม่รู้จะถามอะไรลูกดี
การตั้งคำถามเพื่อพูดคุยกับลูกหลังกลับจากโรงเรียน เป็นเรื่องสำคัญ นอกจากจะทำให้คุณพ่อคุณแม่ได้รู้ประสบการณ์ที่ลูกได้รับจากโรงเรียนแล้ว ยังทำให้เห็นพฤติกรรม ความคิด และสิ่งผิดปกติที่เกิดขึ้นกับลูกได้
แต่พอคุณพ่อคุณแม่ ไม่รู้จะถามอะไรลูกดี ลูกก็ไม่รู้ว่าจะบอกหรือเล่าอะไรดี กลายเป็นเสียโอกาสที่จะได้พูดคุย เรียนรู้ตัวตนของลูก และมีส่วนร่วมกับประสบการณ์ที่โรงเรียนของลูกไปอย่างน่าเสียดาย
เราจึงรวบรวม 5 คำถามสำคัญ ที่คุณพ่อคุณแม่ควรถามลูกหลังกลับจากโรงเรียนให้บ่อยและสม่ำเสมอที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะการตั้งคำถามที่มาในรูปแบบของการชวนคุยนี่แหละ จะทำให้ลูกตอบคำถามอย่างเต็มใจและสนุกสนานมากขึ้นค่ะ
1. วันนี้ลูกชอบอะไรมากที่สุด

บางครั้งคุณพ่อคุณแม่เริ่มชวนลูกคุยด้วยการตั้งคำถามว่า ‘วันนี้เป็นยังไงบ้าง’ แต่คำถามปลายเปิดที่กว้างเกินไป จะทำให้ลูกไม่รู้ว่าควรจะเริ่มเล่าเรื่องราวจากตรงไหนดี ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรกำหนดขอบเขตของคำถามว่าจะมุ่งเน้นให้ลูกเล่าเรื่องใด เช่น เรื่องที่ลูกประทับใจหรือไม่ค่อยพอใจที่สุด ก็จะทำให้ลูกคิดคำตอบและเริ่มเล่าเรื่องราวได้ง่ายขึ้น
และการเปิดบทสนทนาด้วยคำถามเชิงบวก เช่น วันนี้ลูกชอบอะไรมากที่สุด นอกจากจะเป็นคำถามที่ทำให้ลูกได้เล่าเรื่องราวที่มีความสุขแล้ว ยังเป็นการปรับอารมณ์ลูกให้ดีขึ้น พร้อมที่จะเปิดใจพูดคุยเรื่องอื่นๆ ต่อไป
2. วันนี้ลูกนั่งกินข้าวกับใคร

คำถามนี้จะทำให้คุณพ่อคุณแม่รู้ว่าลูกสามารถเข้ากับเพื่อนที่โรงเรียนได้ไหม ลูกนั่งกินข้าวกับเพื่อนกลุ่มเดิมๆ หรือเปลี่ยนกลุ่มไปเรื่อยๆ หากมีการเปลี่ยนกลุ่มเพื่อนไปเรื่อยๆ คุณพ่อคุณแม่อาจจะลองถามลูกว่าทำไมถึงไม่กินข้าวกับเพื่อนคนเดิม แล้วรอฟังเหตุผลจากลูก เพราะเป็นไปได้ว่าลูกอาจจะมีมนุษยสัมพันธ์ดี มีเพื่อนเยอะ และนั่งกินข้าวกับใครก็ได้ หรือลูกมีปัญหากับเพื่อน จึงต้องเปลี่ยนกลุ่มเพื่อนไปเรื่อยๆ เมื่อรู้แล้วจะได้ช่วยกันหาวิธีแก้ไขต่อไป
ในทางตรงกันข้าม หากลูกกินข้าวกับเพื่อนคนเดิมตลอด ก็เป็นไปได้ว่าลูกอาจไม่ชอบมีปฏิสัมพันธ์กับคนใหม่ๆ ชอบอยู่กับเพื่อนกลุ่มเดิมๆ คุณพ่อคุณแม่อาจจะช่วยส่งเสริมทักษะการเข้าสังคมและสอนให้ลูกรู้จักพูดคุยกับคนอื่นมากขึ้นได้
3. อะไรที่ลูกไม่ชอบเลยวันนี้

แม้จะเป็นคำถามเชิงลบเชิงลบ แต่ก็ช่วยให้คุณพ่อคุณแม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับลูกที่โรงเรียนบ้าง ไม่ว่าจะเป็นวิชาที่ลูกไม่ชอบ อาหารไม่ถูกปาก หรือแม้กระทั่งการถูกเพื่อนแกล้ง คำถามนี้คุณพ่อคุณแม่ไม่จำเป็นต้องถามลูกทุกวัน แต่ต้องคอยสังเกตพฤติกรรมและอารมณ์ของลูกเสมอ แล้วหมั่นถามเป็นระยะ เพื่อช่วยแก้ไขปัญหาที่ร้ายแรงเกินกว่าลูกจะรับมือเองได้
4. คุณครูเป็นอย่างไรบ้าง

เพราะที่โรงเรียน คุณครูเปรียบเสมือนตัวแทนของคุณพ่อคุณแม่ที่คอยดูแลและใกล้ชิดกับลูกมากที่สุด จึงไม่ใช่เรื่องแปลกที่คุณพ่อคุณแม่จะถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างลูกกับคุณครูที่โรงเรียนว่าเป็นอย่างไร ลูกชอบหรือไม่ชอบอย่างไร โดยคุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องสังเกตสีหน้าแววตาเวลาที่ลูกพูดถึงคุณครูด้วย เช่น ลูกมีแววตาเป็นประกาย พูดถึงคุณครูในเชิงบวก หรือลูกแสดงออกว่าไม่อยากพูดถึง หากเป็นอย่างหลัง คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรคาดคั้นหรือกดดันให้ลูกเล่าในทันที แต่ควรสังเกตและจดบันทึกพฤติกรรม การแสดงออกของลูกเอาไว้ และหาโอกาสไปพูดคุยกับคุณครูที่โรงเรียนอีกครั้งนะคะ
5. ช่วงนี้โรงเรียนจะมีงานอะไรหรือเปล่า

บางครั้ง ลูกอาจจะหลงลืมหรือไม่รู้จะจัดการกับตารางชีวิตของตัวเองอย่างไร เช่น มีกิจกรรมที่ต้องเข้าร่วมที่โรงเรียนมากขึ้น มีการบ้าน มีข้อความที่คุณครูฝากไปบอกคุณพ่อคุณแม่ การที่คุณพ่อคุณแม่ช่วยตั้งคำถามถึงงานหรือกิจกรรมที่โรงเรียน จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ทราบกำหนดการของงานต่างๆ ภายในโรงเรียน ช่วยให้ลูกลำดับเหตุการณ์และนึกได้ว่ามีการบ้านอะไรที่ต้องทำส่งคุณครู รวมถึงช่วยให้คุณพ่อคุณแม่ได้เตรียมพร้อมสำหรับการไปร่วมงานโรงเรียนกับลูก ซึ่งถือเป็นอีกหนึ่งการแสดงออกที่ช่วยกระชับความสัมพันธ์ระหว่างครอบครัวและโรงเรียนให้ดีขึ้นอีกด้วยค่ะ
COMMENTS ARE OFF THIS POST