แต่ละครอบครัวอาจมีการแบ่งหน้าที่การเลี้ยงดูและอบรมสั่งสอนลูกระหว่างคุณพ่อคุณแม่ไว้ดีอยู่แล้ว แต่ความสัมพันธ์และพฤติกรรมของคุณพ่อคุณแม่ที่ไม่รู้ตัวและไม่ได้ตั้งใจนี่แหละ คืออุปสรรคที่ทำให้การเลี้ยงลูกไม่ราบรื่นและไม่มีประสิทธิภาพอย่างที่ตั้งใจ

เพราะการเลี้ยงลูกไม่ใช่เรื่องของใครเพียงคนเดียว คุณพ่อและคุณแม่จึงจำเป็นต้องมีแนวทางการเลี้ยงดูและสอนลูกไปในทิศทางเดียวกัน นอกจากนั้นยังต้องประคับประคองความสัมพันธ์และคอยระวังพฤติกรรมของตัวเอง ไม่ให้เป็นอุปสรรคในการเลี้ยงลูกของอีกฝ่าย

M.O.M จึงอยากชวนมาสำรวจความสัมพันธ์และพฤติกรรมของคุณพ่อคุณแม่ ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ว่ามีส่วนทำให้ลูกรู้สึกอึดอัด และทำให้การเลี้ยงดูไม่เป็นอย่างที่คิด

1. คนใดคนหนึ่งไม่ทำตามกฎเกณฑ์ที่มีร่วมกัน

หากมีคนใดคนหนึ่งเป็นผู้ตั้งกฎกติกาภายในบ้าน เช่น คุณแม่ตั้งกฎไว้ว่าลูกสามารถดูการ์ตูนได้ไม่เกิน 15 นาที แต่คุณพ่อกลับอนุญาตให้ลูกดูได้นานกว่านั้น หรือเมื่อมีคนหนึ่งตั้งกฎแต่มีอีกคนไม่เคารพกฎ ฝืนกฎ และอนุญาตให้ลูกไม่ทำตามกฎอยู่เสมอ จะทำให้ลูกเกิดความสับสนว่าต้องเชื่อฟังใครกันแน่ และทำตามกติกาของใครกันแน่

ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรเคารพและให้เกียรติซึ่งกัน ด้วยการทำตามข้อตกลงหรือกติกาที่อีกฝ่ายตั้งไว้เพื่อให้ความสัมพันธ์ระหว่างคุณพ่อคุณแม่ราบรื่นและไม่ทำให้ลูกต้องรู้สึกสับสนและอึดอัดเมื่อเห็นว่าคุณพ่อคุณแม่มีความขัดแย้งกันเอง

2. คุณพ่อคุณแม่แข่งกันว่าใครจะเลี้ยงลูกได้ดีและลูกรักใครมากกว่า

ลองนึกภาพคุณพ่อคุณแม่ที่พยายามแข่งกันเอาใจและตามใจลูกมากกว่าอีกคน หรือคอยถามว่าลูกชอบอยู่กับใคร รักใครมากกว่า เพราะคนที่อึดอัดและลำบากใจมากที่สุดก็คือลูก

การเลี้ยงลูกที่ดีควรมาจากความร่วมมือของคุณพ่อคุณแม่ เพื่อให้ลูกรู้สึกเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว มากกว่าการที่คุณพ่อหรือคุณแม่ให้ลูกเป็นศูนย์กลางและพยายามเอาชนะใจลูกด้วยการตามใจ หรือแข่งกันว่าใครจะเป็นที่รักของลูกมากกว่า

3. มีนิสัยและแนวทางการเลี้ยงลูกต่างกันเกินไป

หากคนใดคนหนึ่งมีนิสัยเข้มงวดและจริงจังในการเลี้ยงลูก อีกคนอาจคิดว่าไม่อยากให้ลูกเครียดเกินไป จึงใช้วิธีตามใจลูกเต็มที่ทุกครั้งที่มีโอกาส ความจริงแล้วไม่ว่านิสัยส่วนตัวของคุณพ่อคุณแม่จะแตกต่างกันมากแค่ไหน แต่แนวทางการเลี้ยงลูกคือสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรหาจุดกึ่งกลาง ไม่แสดงความขัดแย้ง หรือต่อต้านกันต่อหน้าลูก เพราะจะทำให้แนวทางการเลี้ยงลูกไม่สม่ำเสมอ ไม่ชัดเจน และลูกไม่รู้ว่าควรทำตัวอย่างไรถึงจะเหมาะสม

4. สมคบคิดกับลูกสองคน

บางครั้งคุณพ่อหรือคุณแม่อาจนึกสนุกด้วยการแอบคิดแอบทำอะไรที่รู้กันกับลูกสองคน เช่น อย่าไปบอกคุณพ่อนะว่าแม่อนุญาตให้ลูกนอนดึก หรือ อย่าไปบอกแม่นะว่าพ่อแอบพามากินไอศกรีม

การที่คุณพ่อหรือคุณแม่แอบสมคบคิดกับลูกสองคน และย้ำว่าให้ทำโดยไม่บอกให้อีกคนรับรู้บ่อยๆรู้ จะทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างพ่อแม่ลูกไม่มั่นคง ลูกเรียนรู้พฤติกรรมแอบทำอะไรลับหลังและเก็บไว้เป็นความลับ

ทางที่ดีคือคุณพ่อคุณแม่ควรทำให้ครอบครัวเป็นพื้นที่ของความมั่นคง ลูกสามารถไว้ใจทั้งคุณพ่อคุณแม่ได้โดยไม่ต้องปิดบัง หรือคิดว่าควรไว้ใจและเชื่อใจใครมากกว่า

อ้างอิง
verywellfamily
empoweringparents
todaysparent