ทำไมลูกหนีออกจากบ้าน?!

ข้อมูลจาก ‘มูลนิธิกระจกเงา’ เผยสถิติปี 2561 ได้รับแจ้งเด็กหาย 310 คน โดยที่ร้อยละ 77 เป็นเด็กที่สมัครใจหนีออกจากบ้าน มีอายุเฉลี่ยระหว่าง 11-15 ปี หรือช่วงวัยแรกรุ่นถึงวัยรุ่นตอนกลาง และเด็กผู้หญิงในช่วงวัยดังกล่าว หายออกจากบ้านมากกว่าเด็กชายเกือบ สามเท่า

 

และเมื่อมองย้อนกลับไปในช่วงสามปีที่ผ่านมา มูลนิธิได้รับแจ้งเด็กหายออกจากบ้านปีละไม่ต่ำกว่าสามร้อยคน ซึ่งคาดการณ์ว่าจำนวนเด็กที่หายออกจากบ้านและไม่ได้แจ้งกับมูลนิธิกระจกเงาที่แท้จริงอาจมีจำนวนมากกว่านี้อีกหลายเท่า

จากข้อมูลดังกล่าว M.O.M ลองรวบรวมสาเหตุที่ทำให้เด็กหนีออกจากบ้าน วิธีสังเกตพฤติกรรมเด็กที่มีความคิดหนีออกจากบ้าน รวมถึงวิธีป้องกันให้เด็กๆ ของเราไม่ใช้วิธีหนีออกจากบ้านในการแก้ปัญหาของตัวเอง

1. เพราะอยู่บ้านแล้วไม่มีความสุข

runaway_web_1

สาเหตุที่ทำให้เด็กไม่อยากอยู่บ้านเป็นเพราะรู้สึกว่าอยู่บ้านแล้วไม่มีความสุข คุณพ่อคุณแม่อาจไม่ทันคิดว่า การทะเลาะกันภายในครอบครัว ตำหนิ ดูถูก ดุด่า ประชดประชัน และเฉยเมยเมื่อลูกมีปัญหา ลงโทษแต่ไม่บอกเหตุผล รวมถึงเปรียบเทียบลูกกับตัวพ่อแม่ หรือเปรียบเทียบกับลูกคนอื่น ทำให้ลูกรู้สึกน้อยใจ จะทำให้ลูกรู้สึกว่าบ้านไม่ใช่สถานที่ที่น่าอยู่อีกต่อไป

วิธีป้องกัน: เปลี่ยนจากดุด่า เป็นรับฟังและใช้เหตุผลกับลูก ทำให้ลูกมั่นใจในความรักที่คุณมีให้ ด้วยการแสดงออกทั้งทางคำพูดและการกระทำ เช่น โอบกอดและบอกรัก ปลอบใจเมื่อลูกมีปัญหา รวมถึงชื่นชมเมื่อลูกทำสิ่งที่เหมาะสม

2. เพราะคุณพ่อคุณแม่มีครอบครัวใหม่

runaway_web_2

การที่คุณพ่อหรือคุณแม่แต่งงานใหม่ มีครอบครัวใหม่ อาจส่งผลให้ลูกรู้สึกถูกแย่งความรัก หรือรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นคนนอกและเป็นส่วนเกิน

วิธีป้องกัน: อธิบายให้ลูกเข้าใจถึงสถานะทางครอบครัวที่มีการเปลี่ยนแปลง และถึงแม้ว่าพ่อหรือแม่จะมีครอบครัวใหม่ แต่ก็ยังรักและปฏิบัติกับลูกเหมือนเดิม ลูกยังคงเป็นส่วนหนึ่งของครอบครัว เป็นที่รัก และไม่มีทางที่จะเป็นคนอื่น จึงไม่มีความจำเป็นที่ลูกจะต้องหนีหายไปไหนทั้งสิ้น

3. เพราะติดเพื่อน ติดแฟน

runaway_web_3

บางครั้งเด็กที่หนีออกจากบ้าน ไม่จำเป็นต้องได้รับความรุนแรงจากครอบครัว เพียงแค่เขารู้สึกขาดความอบอุ่น ไม่มีกิจกรรมทำร่วมกันในครอบครัว การได้อยู่กับเพื่อนหรือแฟนถือเป็นช่วงเวลาที่ดีและมีความสุขกว่าการอยู่กับคนในครอบครัว เพราะมีคนรับฟังและให้ความสำคัญในตัวเขามากกว่า

วิธีป้องกัน: การสื่อสารในครอบครัวเป็นสิ่งสำคัญ คุณแม่อาจเริ่มจากคำถามปลายเปิดอย่างเช่น “ลูกเหนื่อยมาทั้งวันแล้ว รู้สึกอย่างไรบ้าง มีอะไรให้พ่อแม่ช่วยหรือเปล่า” รวมถึงชวนลูกออกไปทำกิจกรรมและหาโอกาสไปเที่ยวด้วยกัน เพื่อสร้างความอบอุ่นภายในครอบครัวอย่างสม่ำเสมอ

4. เพราะถูกคนแปลกหน้าล่อลวง

runaway_web_4

การถูกล่อลวงจากคนแปลกหน้ากลายเป็นสาเหตุอันดับต้นๆ ที่ทำให้เด็กหนีออกจากบ้าน ด้วยวิธีการล่อลวงขณะที่ลูกน้อยใจคนในครอบครัว และผลที่ตามมามักร้ายแรงกว่าสาเหตุอื่นเสมอ

วิธีป้องกัน: เตือนลูกให้รู้ถึงภัยอันตรายจากการใช้เทคโนโลยี ระมัดระวังตัว และไม่ไว้ใจจากคนแปลกหน้า โดยเฉพาะคนที่รู้จักผ่านทางอินเทอร์เน็ต ด้วยการยกตัวอย่างเหตุการณ์จริงจากข่าวมาเป็นอุทาหรณ์ให้ลูกฟัง

5. เพราะถูกเลี้ยงดูด้วยการตามใจหรือขัดใจมากเกินไป

runaway_web_5

เด็กที่ถูกตามใจมากเกินไป เมื่อถูกขัดใจก็จะอยู่ในภาวะผิดหวังเสียใจรุนแรงกว่าเด็กคนอื่น ในทางกลับกันหากถูกบังคับให้ทำตามกฎระเบียบมากเกินไป ก็จะกลายเป็นความกดดัน เช่น หากคุณพ่อคุณแม่ไม่เคยอนุญาตให้ลูกออกไปเที่ยวกับเพื่อน นานวันเข้าลูกจะต่อต้านและหาวิธีออกจากบ้านในที่สุด

วิธีป้องกัน: ไม่เข้มงวดเกินไปจนลูกรู้สึกเครียด หรือรู้สึกว่าตัวเองกำลังถูกบังคับ พยายามเลี้ยงลูกให้มีเหตุผล เช่น ถ้าลูกอยากซื้อของเล่น ของใช้ราคาแพง หรือเป็นของที่มีอยู่แล้ว ควรสอนให้ลูกรู้จักใช้หลักการและเหตุผลว่าควรซื้อหรือไม่ เพราะอะไร รวมถึงผ่อนปรน ให้ลูกมีอิสระในการเลือกอะไรด้วยตัวเองบ้าง

6. ทำตามค่านิยมและความเข้าใจผิดๆ

runaway_web_6

ค่านิยมการหนีออกจากบ้านถูกส่งต่อกันมาอย่างผิดๆ เช่น ทำให้เด็กเข้าใจว่าเป็นเรื่องของความกล้าหาญ หรือถ้าทำแล้วจะใช้ต่อรองเรียกร้องอะไรก็ได้

วิธีป้องกัน: ปลูกฝังความคิดที่ถูกต้อง และแก้ไขความเข้าใจผิดๆ บอกถึงอันตรายที่อาจเกิดขึ้นเมื่อลูกอยู่นอกบ้าน อย่าให้การหนีออกจากบ้านกลายเป็นหนึ่งในทางแก้ปัญหาที่เด็กๆ นึกถึง

พฤติกรรมของเด็กที่มีแนวโน้มว่าจะหนีออกจากบ้าน

runaway_web_7
  1. มีอารมณ์และพฤติกรรมเปลี่ยนไปในทางที่ไม่ดี ยกตัวอย่างเช่น ชอบแยกตัวอยู่แต่ในห้อง หงุดหงิดง่าย หาเรื่องทะเลาะกับคนในครอบครัวตลอดเวลา ใช้คำพูดที่ฟังแล้วไม่สบายใจ การเรียนถอถอย และก้าวร้าว
  2. วุ่นวายกับโทรศัพท์มือถือมากผิดปกติ ยกตัวอย่างเช่น แอบคุยโทรศัพท์ในที่ลับตา มีเบอร์โทรศัพท์สำรองที่คุณพ่อคุณแม่ไม่รู้ มีเบอร์แปลกโทร. เข้าบ่อยๆ  และหงุดหงิดกระวนกระวายเมื่อต้องอยู่ห่างจากโทรศัพท์
  3. แต่งตัวออกจากบ้าน แต่ไม่ไปโรงเรียน และกลับบ้านผิดเวลาเป็นประจำ
  4. มีความลับ มีเพื่อนสนิทหรือแฟนที่ปิดบังและไม่อยากให้ครอบครัวรับรู้

 

 

อ้างอิง
Voicetv
Msn
Sanook
Ch3thailand
mirror

Panitnun W.

'แพม' ไม่มีลูกเป็นของตัวเอง แต่รักเด็กเป็นชีวิตจิตใจ ว่างไม่ได้ต้องหาคลิปเด็กมาดู ถ้าได้ดูคลิปเด็กก่อนนอนนี่คือจะฟินมาก และที่ชอบมากอีกอย่างคือ แซลมอน ความฝันคือ ถ้ามีเงินจะเปิดฟาร์มแซลมอน

COMMENTS ARE OFF THIS POST