เรื่องของ ‘ ภาษา ’ นอกจากจะเป็นเครื่องมือสื่อสารขั้นพื้นฐานที่จำเป็นและสำคัญของมนุษย์ ยังเป็นหนึ่งในทักษะที่มนุษย์สามารถฝึกฝนและพัฒนาให้มีความเชี่ยวชาญได้ และภาษายังนับเป็นหนึ่งในวัฒนธรรมของคนแต่ละพื้นที่ได้อีกด้วย ภาษา จึงเป็นสิ่งสำคัญที่เด็กๆ จะจะต้องเรียนรู้และเข้าใจ เพื่อนำไปใช้สื่อสารกับผู้อื่นเพื่อการดำรงชีวิต สร้างความสัมพันธ์ และเรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ในชีวิตต่อไปได้ผ่านความเข้าใจในภาษา

จึงปฏิเสธไม่ได้เลยว่าเด็กๆ ควรได้รับการพัฒนาทักษะทางภาษาอย่างถูกต้องในเวลาเหมาะสม เพราะแม้แต่ในวัยทารก ภาษากายของทารกก็สามารถใช้สื่อสารความต้องการของตัวเองกับคุณพ่อคุณแม่ได้ ดังนั้นเมื่อลูกอยู่ในวัยหัดพูดการฝีกให้ลูกมีพัฒนาการทักษะทางภาษา จึงเป็นเรื่องที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรมองช้าม

M.O.M มีวิธีการดีๆ ที่จะช่วยให้ลูกในวัยหัดพูดและหัดเดิน มีพัฒนาการทางภาษามาให้คุณพ่อคุณแม่ลองนำไปใช้กันดูค่ะ

1. บรรยายการกระทำออกมาเป็นคำ

ทักษะภาษาของเด็กในวัยหัดเดินยังอยู่ในช่วงของการพัฒนา ทำให้คำหรือภาษาที่ใช้สื่อสารกับเด็กวัยนี้ควรสั้น กระชับ และเข้าใจง่าย ซึ่งจะดีมากขึ้นไปอีกหากเราสามารถบอกคำศัพท์ผ่านการกระทำของลูกได้ เช่น เดินขึ้นรถ หยิบหนังสือ นั่งบนเก้าอี้ การทำลักษณะนี้จะยิ่งทำให้ลูกประมวลผลเข้าใจความหมายของคำได้เร็ว

และหากคำที่ใช้จะดูผิดหลักไวยกรณ์ไปบ้างก็ไม่เป็นไร เพราะวัยนี้ เพียงให้ลูกได้รู้จักและจำคำศัพท์ต่างๆ ไว้เป็นพื้นฐานก็เพียงพอที่จะค่อยๆ เรียนรู้เรื่องไวยกรณ์หรือการจัดเรียงประโยคที่ซับซ้อนมากขึ้น ตามช่วงวัยที่เหมาะสม

2. ให้ลูกได้พยายามบอกความต้องการของตัวเองออกมา

คุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจจะมีวิธีอำนวยความสะดวกให้ลูกมากเสียจน ลูกไม่เคยต้องใช้ความพยายามในการบอกหรือสื่อสารกับผู้อื่น เรียกว่าพอถึงเวลาทุกอย่างก็ถูกจัดแจงมาให้เรียบร้อย หยิบเองได้ กินเองได้ ทำเองได้ เพราะคุณพ่อคุณแม่รู้ใจเตรียมไว้ให้พร้อม

แต่ถ้าต้องการฝึกทักษะด้านภาษาและการสื่อสารให้ลูก เราอาจจะต้องสร้างสถานการณ์ยากๆ ให้ลูกบ้าง เช่น นำของเล่นชิ้นโปรดไปเก็บไว้ในที่ลูกไม่สามารถหยิบเองได้ เมื่อลูกต้องการจะเล่น ก็จะพยายามสื่อสารหรือบอกให้คุณพ่อคุณแม่ช่วยหยิบให้ ขั้นตอนนี้จะทำให้ลูกได้คิดวิธีการที่จะสื่อสาร ว่าจะบอกพ่อแม่อย่างไร ใช้คำไหน จะเรียกของเล่นนั้นว่าอะไร ถือเป็นการพัฒนาทักษะทางภาษาที่ดีมากๆ เลย

3. ชวนเด็กๆ ทำกิจวัตรประจำวันด้วยกัน

ลองชวนเจ้าตัวน้อยมาทำกิจวัตรประจำวันกัน ไม่ว่าจะเข้าครัว รดน้ำต้นไม้ กวาดบ้านถูบ้าน เพราะสิ่งเหล่านี้นอกจากจะช่วยพัฒนาทักษะชีวิตแล้ว ยังช่วยพัฒนาทักษะภาษาของลูกได้ด้วย เพราะพ่อแม่จะต้องคอยพูดสื่อสารกับลูกตลอด ว่าลูกต้องหยิบจับอะไรขึ้นมาใช้อย่างไร  เพราะกิจวัตรประจำวันนี่แหละที่จะทำให้ลูกเกิดการเรียนรู้คำใหม่ๆ และจดจำได้ เมื่อคุณพ่อคุณแม่พูดถึงสิ่งนี้อีกครั้ง

4. ไม่ให้ลูกจ้องจอ

แน่นอนว่าเทคโนโลยีสามารถทำให้เด็กๆ เกิดการเรียนรู้ แต่ในขณะเดียวกันการให้ลูกสื่อสารกับหน้าจอเป็นหลัก ก็มีผลเสียต่อเด็กได้งานวิจัยพบว่าเด็กในวัยหัดเดินที่ใช้หน้าจอนานกว่าสองชั่วโมงต่อหนึ่งวัน จะส่งผลกระทบให้การเรียนรู้รวมถึงทักษะทางภาษาอาจล่าช้าลงไปด้วย

อ้างอิง
parents
sunshinehouse
scholastic
childmind