อากาศร้อนอย่างนี้ เทศกาลสงกรานต์ น่าจะเป็นเทศกาลแห่งความสนุกสนานที่เด็กๆ หลายคนอยากเร่งวันเวลาให้มาถึงไวๆ เพราะนอกจากจะได้มีวันหยุดพักผ่อนหลายวัน ได้ไปท่องเที่ยว และสิ่งที่จะขาดไม่ได้ในวันสงกรานต์เลยก็คือการได้เล่นน้ำตัวเปียกคลายร้อยและยังสนุกสนานได้ตลอดวัน
แต่ถึงอย่างนั้น คุณพ่อคุณแม่ก็ต้องไม่ลืม อันตรายที่มากับวันสงกรานต์ เพราะการเล่นน้ำ แม้จะช่วยคลายร้อนให้เด็กๆ ได้แล้ว สิ่งหนึ่งที่ควรระวังคือเชื้อโรคที่ปะปนมากับน้ำ อาจนำมาสู่อาการเจ็บป่วยภายหลังได้
1. โรคไข้หวัดและปอดอักเสบ
การเล่นน้ำสงกรานต์ทำให้อุณหภูมิของร่างกายมีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว เช่น จากแดดร้อนจัดก็โดนสาดน้ำเย็นตัวเปียกชุ่ม หลังจากนั้นเด็กๆ อาจปล่อยให้ร่างกายเปียกชื้นเป็นเวลานาน ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจได้ เช่น เป็นหวัด คัดจมูก มีไข้ และอาจมีอาการรุนแรงอย่างไข้หวัดใหญ่และปอดบวมได้
ดังนั้น เมื่อลูกเล่นน้ำเสร็จแล้ว คุณพ่อคุณแม่ควรรีบอาบน้ำทำความสะอาดร่างกาย และใส่เสื้อผ้าที่เพิ่มความอบอุ่น ดื่มน้ำมากๆ โดยเฉพาะน้ำอุ่น และพักผ่อนให้เพียงพอ
2. โรคท้องร่วง
ท้องร่วงเป็นโรคที่เกิดจากการได้รับเชื้อโรคทางอาหารและน้ำดื่ม เพราะอากาศร้อนทำให้เชื้อโรคและแบคทีเรียเติบโตได้ดี ทำให้อาหารเน่าเสียและน้ำดื่มปนเปื้อนเชื้อโรคได้ง่าย
ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงควรระมัดระวังเรื่องของอาหารการกินและเครื่องดื่มของลูกเป็นพิเศษ รวมถึงความสะอาดของน้ำที่จะให้เด็กๆ เล่นสงกรานต์ โดยคุณพ่อคุณแม่ควรย้ำให้ลูกระวังน้ำเข้าปาก และไม่ให้ลูกกินน้ำที่ใช้เล่นสงกรานต์อีกด้วย
3. โรคตาแดง
โรคตาแดง เกิดจากการติดเชื้อไวรัสหรือแบคทีเรียทำให้มีการอักเสบที่เยื่อบุตา ดังนั้นหากน้ำไม่สะอาดเข้าตาลูก หรือลูกเผลอขยี้ตาด้วยมือที่เปียกน้ำไม่สะอาด ก็ทำให้เชื้อโรคเข้าตาจนเกิดการอักเสบได้
นอกจากนั้น การฉีดน้ำด้วยสายยาง สาดน้ำแรงๆ หรือฉีดน้ำจากปืนฉีดน้ำเข้าตาโดยตรงก็ทำให้เกิดการระคายเคืองและอักเสบที่ดวงตาได้ ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่อาจปกป้องดวงตาของลูกด้วยการให้ลูกใส่แว่นตาว่ายน้ำ ระหว่างเล่นน้ำสงกรานต์ก็ได้นะคะ
4. โรคผิวหนัง
เด็กๆ ส่วนมากมักจะมีอาการผดร้อน โรคเชื้อราที่ผิวหนัง ติดเชื้อแบคทีเรียที่ผิวหนังในหน้าร้อน โดยเฉพาะอย่างยิ่งช่วงเทศกาลสงกรานต์ การเล่นน้ำที่ไม่สะอาด หรือปล่อยให้ตัวเปียกชื้นนานๆ อาจทำให้อาการผดร้อนและโรคผิวหนังลุกลามมากขึ้น
ดังนั้น หากลูกมีอาการผดผื่นคันอยู่แล้ว คุณพ่อคุณแม่อาจต้องให้ลูกงดการเล่นน้ำเป็นเวลานานๆ หรือเล่นแล้วควรรีบอาบน้ำทำความสะอาดร่างกายให้แห้งทันที
5. โรคลมแดด (Heat stroke)
อาการฮีทสโตรก เกิดจากการอยู่ในที่ที่อุณหภูมิรอบตัวสูง ทำให้อุณหภูมิในร่างกายสูงขึ้นตามไปด้วย ส่งผลให้ร่างกายปรับตัวไม่ทัน โดยอาการเบื้องต้นที่สังเกตได้ง่ายก็คือ ปวดศรีษะ คลื่นไส้ อาเจียน ชีพจรเต้นเร็วอาจมีอาการสับสน กระวนกระวาย เพ้อ และชักหรือหมดสติได้
ดังนั้น ในวันที่อากาศร้อนมาก คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรให้ลูกออกไปยืนหรือวิ่งเล่นกลางแจ้งหรือที่มีอากาศร้อนเกินไป นอกจากนั้น ควรให้ลูกสวมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี ดื่มน้ำบ่อยๆ และพยายามอยู่ในที่ที่อากาศถ่ายเทได้สะดวกด้วยนะคะ
6. โรคหูชั้นนอกอักเสบ
เกิดจากน้ำเข้าหูและมีน้ำขังอยู่ในหู โดยเฉพาะหลังจากว่ายน้ำ อาบน้ำ และเล่นน้ำ อาจมีอาการหูบวม คัน และรู้สึกเจ็บในหูได้
ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรเตือนไม่ให้ลูกเล่นฉีดน้ำหรือสาดน้ำใส่บริเวณหู (รวมถึงตาและปากด้วย) และหลังจากที่ลูกเล่นน้ำเสร็จแล้ว ควรทำความสะอาดเช็ดหูของลูกให้แห้ง และไม่ควรแคะหรือเช็ดหูลูกด้วยความรุนแรงเพราะอาจทำให้เกิดการอักเสบมากขึ้นได้
COMMENTS ARE OFF THIS POST