คุณพ่อคุณแม่รู้ดีว่า ในวันที่ลูกยังเล็ก สิ่งที่ลูกต้องการมากที่สุด ก็คือ ‘เวลา’ จากคุณพ่อคุณแม่ และของเล่นที่ดีที่สุดในช่วงแรกของชีวิตลูกก็คือคุณพ่อคุณแม่ ดังนั้นการ ไม่มีเวลาเล่นกับลูก นอกจากจะไม่เป็นผลดีต่อลูกแล้ว ยังส่งผลต่อจิตใจของคุณพ่อคุณแม่อีกด้วย

การมีเวลาคุณภาพ และเล่นกับลูก จึงเป็นเรื่องสำคัญ อาจจะเพียง 15 นาที ก่อนออกไปทำงาน 30 นาทีระหว่างทางไปส่งลูกที่โรงเรียนหรือ 1 ชั่วโมงเมื่อกลับมาถึงบ้าน แม้จะเป็นเวลาสั้นๆ แต่การเล่นกับลูก ก็เป็นช่วงเวลาทองที่ช่วยให้ลูกมีพัฒนาการทางอารมณ์ที่ดีและรู้สึกเป็นที่รักของคุณพ่อคุณแม่

แต่จะแบ่งตารางเวลา เพื่อแก้ปัญหาพ่อแม่ ไม่มีเวลาเล่นกับลูก ได้อย่างไร เรามีเทคนิคมาบอกให้คุณพ่อคุณแม่ลองไปปรับใช้ดูค่ะ

1. ไม่ต้องกำหนดเวลาที่ตายตัวเพื่อเล่นกับลูก

คุณพ่อคุณแม่ไม่จำเป็นต้องกดดันตัวเองด้วยการกำหนดเวลาหรือลงตารางนัดหมายเพื่อเล่นกับลูกก็ได้นะคะ แต่สิ่งที่ทำได้และดีกว่าก็คือการใช้ทุกช่วงเวลาที่มีกับลูกให้คุ้มค่า แม้จะเป็นช่วงเวลาที่ต้องเร่งรีบไปบ้าง เช่น คุณแม่ไม่จำเป็นต้องรีบทำงานบ้านให้เสร็จ เพื่อไปนั่งเล่นกับลูกอย่างเดียวเท่านั้น แต่สามารถชวนลูกมาเล่นสนุกกับการทำงานบ้านไปด้วยกันได้ ไม่เพียงแต่จะช่วยให้คุณแม่ทำงานบ้านได้โดยไม่เร่งรีบแล้ว ลูกก็ยังได้รู้ขั้นตอนการทำงานบ้านและใช้เวลากับคุณแม่อีกด้วย

2. ช่วงชิง 2 เวลาสำคัญ ตอนอาบน้ำและก่อนเข้านอน

#เล่นกับลูกตอนอาบน้ำ สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ทำงานนอกบ้าน เวลาสำคัญที่ต้องช่วงชิงและทำคะแนนเอาไว้ก็คือ ตอนอาบน้ำให้ลูก เพราะนั่นคือช่วงเวลาที่ลูกจะรู้สึกผ่อนคลาย การพูดคุยหรือร้องเพลงด้วยกันระหว่างอาบน้ำ จะเป็นช่วงเวลาๆ สั้นๆ ที่ลูกสนุกและประทับใจได้ง่าย

#ใช้เวลากับลูกก่อนเข้านอน นอกจากตอนอาบน้ำแล้ว ช่วงเวลาก่อนเข้านอนในแต่ละวันของลูกก็สำคัญ ดังนั้น กิจกรรมง่ายๆ เช่น เล่านิทาน เล่าเรื่องราววัยเด็กของคุณพ่อคุณแม่  นอนนับสติกเกอร์บนเพดาน หรือพูดคุยเรื่องดีๆ พอที่จะทำให้ลูกหัวเราะคิกคักก่อนเข้านอน ก็ทำให้ลูกนอนหลับอย่างมีความสุขได้แล้ว

3. Have a Yes Day วันเล่นของคุณพ่อคุณแม่

ในหนึ่งสัปดาห์ คุณพ่อคุณแม่ควรมีวันที่สามารถปิดงานที่ค้างคา วางโทรศัพท์มือถือไว้ไกลตัว แล้วชวนลูกออกไปทำกิจกรรมนอกบ้าน เช่น สวนสัตว์ เล่นสวนน้ำ เล่นโคลน ปั้นดินเผา หรือปิกนิกที่สวนสาธารณะใกล้บ้าน

และทำวันหยุดธรรมดาของคุณพ่อคุณแม่ ให้เป็น Yes Day หรือวันที่ลูกจะสามารถเลือกทำสิ่งที่ตัวเองต้องการได้ โดยไม่ถูกคุณพ่อคุณแม่ปฏิเสธ   แต่ทั้งนี้ หากเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องปฏิเสธ คุณพ่อคุณแม่อาจใช้วิธีตอบว่า ได้ และเพิ่มเงื่อนไข หรือเบี่ยงเบนความสนใจลูกไปเรื่องอื่นแทนก็ยังได้

4. ตรงข้ามกับ ‘เวลาคุณภาพ’ ก็คือ ‘เวลาด้อยคุณภาพ’

Melissa Milkie นักสังคมวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยโตรอนโต ทำการศึกษาสุขภาพจิตของคุณแม่และพบว่า เมื่อไหร่ก็ตามที่คุณแม่รู้สึกเหนื่อย เครียด รู้สึกผิด รู้สึกวิตกกังวล และพักผ่อนไม่เพียงพอ เมื่อมีสัญญาณเหล่านั้น แต่จะพยายามใช้เวลากับลูกมากเท่าไร แต่ก็จะได้เป็นช่วงเวลาด้อยคุณภาพกลับมาแทน

ดังนั้น ไม่ใช่แค่คิดว่าจะต้องอยู่กับลูกให้มากที่สุด คุณพ่อคุณแม่ควรมีเวลาให้ตัวเองได้พักผ่อนอย่างเต็มที่ แล้วจึงจะมีเวลาที่มีคุณภาพกับลูกได้อย่างที่ตั้งใจนะคะ

#ระยะทางทำให้คนยิ่งรักกัน หากคุณพ่อคุณแม่ได้ใช้เวลาสักหนึ่งวัน เพื่อดูแลตัวเอง กลับไปเป็นตัวของตัวเอง หรือแม้จะเป็นช่วงเวลาไม่กี่ชั่วโมงที่ได้ละวางจากหน้าที่ดูแลลูก รับรองว่าคุณพ่อคุณแม่จะแปลกใจที่รู้สึกคิดถึงและอยากกลับไปดูแลลูกมากขึ้นไปอีก

การสำรวจ 1,000 ครอบครัว โดย Ellen Galinsky ผู้เขียนหนังสือ Mind in the Making ได้ถามเด็กๆ ว่า “ถ้าคุณได้รับพรหนึ่งข้อเกี่ยวกับพ่อแม่ของคุณ คุณจะขออะไร” คุณพ่อคุณแม่ส่วนใหญ่คาดการณ์ว่าลูกๆ จะตอบว่า อยากให้คุณพ่อคุณแม่มีเวลาให้เขามากขึ้น

แต่ความจริงแล้ว คำตอบของลูกๆ ส่วนมากก็คือ ไม่อยากให้คุณพ่อคุณแม่เหนื่อยมากไปกว่านี้ และยังอยากให้คุณพ่อคุณแม่เครียดน้อยลงอีกด้วย นั่นแสดงให้เห็นว่า ลูกต้องการเวลาที่มีคุณภาพจากคุณพ่อคุณแม่มากกว่าเวลาที่เน้นปริมาณ

ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่อาจไม่ต้องทุ่มเวลาสุดตัวเพื่อเลี้ยงดูพวกเขา แต่ต้องทุ่มสุดใจเพื่อสร้างความรักและความทรงจำที่ดีให้เกิดขึ้นกับลูกต่อไปค่ะ

อ้างอิง
family academy
parents.com