ความเครียดเปรียบเสมือนเป็นดาบสองคม เพราะความเครียดในระดับที่เหมาะสม ก็มีประโยชน์คือเป็นแรงกระตุ้นให้เด็กทำสิ่งต่างๆ ประสบความสำเร็จ แต่ถ้าเครียดมากเกินไป ความเครียดก็จะส่งผลต่อร่างกายและจิตใจของเด็ก

ความเครียดจะกระตุ้นให้ร่างกายสร้างฮอร์โมนคอร์ติซอล (Cortisol) ทำให้สมองสูญเสียพื้นที่ที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับความคิด ความฉลาด กล่าวได้ว่าความเครียดขัดขวางการเรียนรู้ของเด็ก และยังเปลี่ยนเด็กที่น่ารัก สดใสให้กลายเป็นเด็กก้าวร้าว ไม่มีความมั่นใจในตัวเองได้อีกด้วย

1. ไม่ยอมกิน

พอเกิดความเครียดขึ้น ระบบทางเดินอาหารของเด็ก ตั้งแต่คอหอย ลำไส้ และกระเพาะอาหารก็จะหดตัวลง ทำให้เด็กกินอาหารไม่ค่อยลง ถึงแม้จะเป็นอาหารจานโปรดก็ตาม

2. ปวดหัว

ความเครียดทำให้หลอดเลือดทั่วร่างกายตีบตัน ทำให้สมองรับเลือดไปหล่อเลี้ยงไม่เพียงพอ ทำให้เด็กเกิดอาการมึนงง เวียนหัว ไม่สดใส และไม่มีแก่ใจจะออกไปเล่นเหมือนเด็กทั่วไป

3. ปวดท้อง

ความเครียดทำให้ระบบประสาทอัตโนมัติกระตุ้นต่อมหมวกไตให้หลั่งฮอร์โมนอะดรีนาลีน (Adrenaline) มากกว่าปกติ และยังกระตุ้นให้กระเพาะอาหารหลั่งน้ำย่อยออกมามากกว่าปกติ จนเกิดอาการระคายเคืองและเป็นแผลในกระเพาะอาหาร นี่จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้ลูกปวดท้องขึ้นมาโดยที่คุณไม่ทราบสาเหตุ

4. นอนไม่หลับ

ความเครียดทำให้กล้ามเนื้อหดเกร็งไปทั้งตัว หัวใจเต้นแรง ความดันสูง จึงทำให้เด็กรู้สึกกระสับกระส่ายและนอนไม่หลับ

5. พฤติกรรมถดถอย

เด็กเล็กยังสื่อสารความรู้สึกได้ไม่ดีเท่าทีควร เวลาสมองมีความเครียด แต่ไม่สามารถสื่อสารได้ ทำให้เด็กปรับพฤติกรรมตัวเองให้ถดถอยลง เช่น เคยเข้าห้องน้ำและปัสสาวะด้วยตัวเองได้ กลับทำไม่ได้ หรือเคยกินข้าวด้วยตัวเองได้ ก็กลับร้องไห้งอแงร้องขอให้แม่ป้อนข้าว เพราะเด็กเข้าใจว่าการทำพฤติกรรมเช่นนี้จะทำให้พ่อแม่ให้ความสนใจและใส่ใจเขามากขึ้น

6. โกรธง่าย โมโหง่ายกว่าปกติ

ความเครียดที่มากเกินไปส่งผลให้อารมณ์ผิดปกติ จากเด็กที่น่ารักสดใส ยิ้มง่าย ไม่ค่อยโกรธคนอื่น พอพ่อแม่ทำอะไรผิดใจนิดหน่อยก็โกรธและโมโหง่ายกว่าปกติ

7. ไม่ร่าเริงเหมือนแต่ก่อน

ไม่ใช่ส่งผลกระทบต่อร่างกายเพียงอย่างเดียว ความเครียดยังส่งผลกระทบต่อจิตใจของเด็กอีกด้วย พอรู้สึกเครียด ก็ทำให้เด็กไม่อยากทำอะไร เศร้าซึม และชอบปลีกตัวแยกไปอยู่ลำพัง

8. มีพฤติกรรมแปลกจากปกติ

เพราะไม่รู้ว่าจะต้องระบายความเครียดออกจากตัวเองอย่างไร เลยทำให้เด็กแสดงพฤติกรรมที่ไม่เคยแสดง เช่น ดูดนิ้วมือ ดึงผม หรือกัดเล็บ ถึงแม้พฤติกรรมเหล่านี้จะช่วยบ่งชี้ให้คุณพ่อคุณแม่รู้ว่าลูกกำลังมีความเครียด แต่พฤติกรรมเหล่านี้ก็ไม่ดีต่อบุคลิกภาพของลูกในอนาคต คุณพ่อคุณแม่ต้องลองปรับเปลี่ยนและสอนวิธีการระบายความเครียดที่ถูกต้องให้ลูก เพื่อให้ลูกเรียนรู้ที่จะแสดงความเครียดออกมาในทางที่ถูกต้อง

อ้างอิง
Matichon
Maerakluke
Voathai
หมอเสาวภา เลี้ยงลูกเชิงบวก
เลี้ยงลูกนอกบ้าน
.Enfababy
Islammore
Gedgoodlife
Parentsone
สำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส.)