วันฮาโลวีนที่หลายคนอาจกำลังนึกสนุกและจินตนาการถึงงานปาร์ตี้แฟนซีในชุดผีใช่ไหมคะ ในขณะที่คุณแม่หลายคน พอลูกเริ่มโตถึงวัยหนึ่ง ก็เริ่มเจอกับปัญหาที่เจ้าตัวเล็กในบ้านเกิดอาการกลัวผีขึ้นมาบ้าง ช่างจินตนาการจนไม่กล้าอยู่คนเดียวบ้าง คอยทำตัวติดกับคุณแม่เป็นตังเมบ้าง…
M.O.M จึงมีเทคนิคดีๆ มาช่วยให้คุณแม่รับมือกับลูกน้อยวัยช่างจินตนาการและช่างจดจำเรื่องราว ไม่ให้กลายเป็นเด็กที่กลัวผีจนติดเป็นนิสัย
1. ไม่ขู่ลูกด้วยเรื่องผี
เวลาลูกไม่เชื่อฟัง คุณแม่ไม่ควรใช้เรื่องผีมาขู่เพื่อให้ลูกหยุดดื้อ เช่น การพูดว่า “ถ้ายังดื้อแบบนี้ ผีจะมาหลอก” คำพูดเหล่านี้อาจทำให้ลูกเชื่อฟังเพราะความกลัว แต่ก็เป็นการปลูกฝังให้ลูกเชื่อและกลัวผีอย่างไม่มีเหตุผลต่อไปเรื่อยๆ
2. คัดกรองสื่อที่ลูกดู
คุณแม่ควรใส่ใจการเสพสื่อต่างๆ ของลูก ไม่ว่าจะเป็นสื่อโทรทัศน์หรืออินเทอร์เน็ต เพื่อคัดกรองการรับสื่อ ไม่ให้ลูกต้องพบกับภาพที่น่ากลัว รุนแรง และไม่เหมาะสม จนจำติดตาหรือเก็บไปฝันร้าย
3. ให้ลูกพกสิ่งของที่ทำให้อุ่นใจ
ถ้าป้องกันที่ต้นเหตุไม่ทัน ลูกเริ่มมีอาการกลัวผีให้เห็นเสียแล้ว ลองใช้วิธีให้ลูกพกสิ่งของที่พอจะทำให้เขาสบายใจและอุ่นใจ เมื่อมีของชิ้นนี้ใกล้ตัว แทนที่กลัวแล้วจะร้องหาคุณพ่อคุณแม่ตลอดเวลา ลองให้ลูกนึกถึงสิ่งของชิ้นนั้น เพื่อบรรเทาอาการกลัวในจิตใจตัวเอง
4. ให้ลูกอยู่ตามลำพังดูบ้าง
จิตใจที่แข็งแกร่งเกิดจากการฝึกฝนทีละน้อย คุณแม่อาจเริ่มจากการฝึกให้ลูกอยู่คนเดียวในที่ที่คุณแม่อยู่ใกล้ๆ หรือที่ที่มีแสงไฟสว่าง เช่น เข้าห้องน้ำคนเดียว อยู่ในห้องนอนคนเดียว
ในระยะแรก คุณแม่อาจคอยอยู่เป็นเพื่อนคุยใกล้ๆ ก่อนที่จะค่อยๆ ฝึกให้ลูกอยู่คนเดียวในสถานที่ที่มืดหรือน่ากลัวมากขึ้น เช่น เข้าไปหยิบของในห้องที่ปิดไฟมืดคนเดียวได้ และที่สำคัญ เมื่อลูกทำได้ อย่าลืมกล่าวชื่นชมและให้กำลังใจลูกเสมอ
5. ให้เวลาลูกเรียนรู้และเติบโตอย่างแข็งแกร่ง
อาการกลัวผีของเด็กเป็นอาการกลัวที่เกิดขึ้นตามวัย เช่นเดียวกับที่เด็กบางคนกลัวเสียงฟ้าร้อง ฟ้าผ่า หรือบางคนกลัวความมืด และอาการเหล่านี้จะหายเอง เมื่อลูกโตและเข้าใจอะไรมากขึ้น
เพราะฉะนั้น คุณแม่ไม่ควรใช้วิธีดุหรือตี เมื่อลูกกลัวอย่างไม่มีเหตุผล แต่ควรพยายามทำความเข้าใจ คุยกับลูกด้วยเหตุผล แล้วลูกจะค่อยๆ เติบโตอย่างแข็งแกร่งได้ในที่สุด
NO COMMENT