เมื่อลูกถึงวัยเข้าโรงเรียน เริ่มมีสังคมใหม่เป็นของตัวเอง ลูกก็จะเริ่มมีบุคลิก แสดงความสนใจ ความชอบ และตัวตนของตัวเองออกมามากขึ้น ในช่วงนี้นี่เองที่คุณพ่อคุณแม่จะได้สังเกตบุคลิกและความเป็นอินโทรเวิร์ต (Introvert) หรือเอ็กซ์โทรเวิร์ต (Extrovert) ของลูกได้
หากลูกมีบุคลิกภาพอินโทรเวิร์ต ก็จะเป็นเด็กที่รักสงบ โลกส่วนตัวสูงลูก และชอบใช้เวลาอยู่กับตนเอง ส่วนลูกที่มีบุคลิกภาพเอ็กซ์โทรเวิร์ต ก็จะเป็นเด็กชอบเข้าสังคม อยากทำความรู้จักเพื่อนใหม่ ช่างพูดช่างถาม ซึ่งอาจทำให้ พ่อแม่อินโทรเวิร์ต ทั้งหลายรู้สึกเหนื่อยและหนักใจกับการตอบสนองและส่งเสริมบุคลิกภาพลูกอย่างเหมาะสม
Dr. David Rettew รองศาสตราจารย์ด้านจิตเวชและกุมารเวชศาสตร์ ประจำวิทยาลัยแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเวอร์มอนต์ เผยว่า หาก พ่อแม่อินโทรเวิร์ต มีลูกเป็นเอ็กซ์โทรเวิร์ต แต่สามารถปรับตัว ทำความเข้าใจ และสนับสนุนลูกในแบบที่ไม่ทำให้คุณพ่อคุณแม่สูญเสียตัวตนของตัวเองมากเกินไป คุณพ่อคุณแม่ก็จะได้เรียนรู้สิ่งใหม่จากลูกได้เช่นกัน
ดังนั้น เรามาช่วยกันทำให้คุณพ่อคุณแม่อินโทรเวิร์ต เลี้ยงลูกเอ็กซ์โทรเวิร์ต ได้อย่างราบรื่น และสนับสนุนให้ลูกได้แสดงศักยภาพในตัวเองออกมาอย่างเต็มที่ดีกว่านะคะ
1. อธิบายให้ลูกเข้าใจถึงความแตกต่าง
สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการอธิบายให้ลูกเข้าใจว่าแต่ละคนล้วนมีบุคลิกภาพในแบบของตัวเอง เช่น บางคนชอบความเป็นส่วนตัว ชอบอยู่คนเดียวมากกว่าเข้าสังคม แต่บางคนก็ชอบอยู่กับคนหมู่มาก แต่ไม่ว่าจะเป็นอย่างไร ทุกคนควรเข้าใจและเคารพในความแตกต่างนั้น เช่น ลูกชอบเล่นกับเพื่อนเยอะๆ ชอบเข้าสังคม แต่บางครั้งคุณพ่อคุณแม่ก็ต้องการพักผ่อนอยู่บ้านและอยู่กับคนในครอบครัวเท่านั้น
แต่ในทางกลับกัน คุณพ่อคุณแม่ก็ควรทำความเข้าใจอุปนิสัยพื้นฐานของชาวเอ็กโทรเวิร์ตอย่างลึกซึ้ง และส่งเสริมให้ลูกมีโอกาสใช้ลักษณะนิสัยของตัวเองให้เป็นจุดแข็งในการพัฒนาตัวเอง เช่น เด็กเอ็กโทรเวิร์ตมักจะชอบพูดคุย ซักถาม ปรับตัวเข้ากับคนอื่นได้ง่าย
2. ผลัดกันพาลูกเข้าสังคม
ความแตกต่างที่ชัดเจนระหว่างบุคลิกภาพแบบอินโทรเวิร์ตและเอ็กโทรเวิร์ต ก็คือความรู้สึกสบายใจในการเข้าสังคม สังเกตได้จาก ลูกเอ็กโทรเวิร์ตมักมีนิสัยชอบการเข้าสังคม ไม่เขินอายหรือกลัวที่จะปรับตัวเข้าหาผู้คนใหม่ๆ และชอบการทำงานเป็นทีม ส่วนเด็กอินโทรเวิร์ตมักจะชอบอยู่ในสังคมเดิมๆ กับคนที่สนิทหรือคุ้นเคยกันอยู่แล้ว และต้องใช้เวลาปรับตัวเข้ากับสังคมใหม่สักระยะ
คุณพ่อคุณแม่จึงควรผลัดกันพาลูกไปทำกิจกรรมที่ได้พบเจอสังคมใหม่ๆ เพื่อส่งเสริมจุดแข็งการเข้าสังคมของลูกให้ดียิ่งขึ้น ส่วนคุณพ่อคุณแม่ก็จะได้สลับกันมีเวลาส่วนตัวของตัวเองบ้าง
3. สอนลูกให้รู้จักเข้าหาคนอย่างเหมาะสม
จริงอยู่ที่ลูกเอ็กโทรเวิร์ตจะสามารถปรับตัวเข้ากับสังคมใหม่ได้ดี แต่สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรสอนลูกไว้ตั้งแต่เนิ่นๆ คือการเข้าหาคนอื่นอย่างมีมารยาท รู้จักกาลเทศะ และขอบเขตในการพูดคุย หรือแม้แต่มารยาทในการเข้าหาผู้ใหญ่ หากลูกเรียนรู้วิธีเข้าหาคนอื่นอย่างเหมาะสมแล้วก็จะทำให้ลูกเป็นเด็กที่ได้รับความรักความเอ็นดูจากคนรอบข้าง
4. ฝึกบาลานซ์ให้ลูกขี้เบื่อ
วามขี้เบื่อเป็นอีกหนึ่งอุปนิสัยของลูกเอ็กโทรเวิร์ต สังเกตง่ายๆ คือเขาจะชอบทำกิจกรรมหลายอย่าง แต่จะทำอยู่ได้ไม่นานก็จะเบื่อ และเปลี่ยนไปทำอย่างอื่น จึงเห็นได้ชัดเจนว่าทักษะสำคัญที่ลูกอาจจะขาดไปก็คือการมีสมาธิ
คุณพ่อคุณแม่ควรฝึกฝนให้ลูกเอ็กโทรเวิร์ตได้จดจ่ออยู่กับสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ฝึกสมาธิให้มากขึ้น เช่น ชวนลูกอ่านหนังสือ ต่อจิ๊กซอว์ หรือเล่นเกมตัวต่อไม้จังก้า เพื่อฝึกสมาธิให้ดียิ่งขึ้น
COMMENTS ARE OFF THIS POST