คุณพ่อคุณแม่ทุกคนคงอยากให้ลูกมีพัฒนาการที่ดี สมวัย มีทั้งความฉลาดทางปัญญา (IQ) และความฉลาดทางอารมณ์ (EQ) ครบถ้วน
ช่วงขวบปีแรกของลูก เป็นช่วงเวลาที่คุณพ่อคุณแม่สามารถส่งเสริมและพัฒนาทักษะด้านต่างๆ ให้ลูกได้ดีที่สุด และวิธีที่แสนง่ายที่คุณพ่อคุณแม่สามารถทำได้ทุกวันก็คือการอ่านหรือเล่านิทานให้ลูกฟัง
หากไม่อยากพลาดในการสร้างพัฒนาการด้านต่างๆ ให้กับลูกรัก เราลองมาดูประโยชน์ดีๆ ของการเล่านิทานให้ลูกฟังกันค่ะ
1. การเล่านิทานช่วยเสริมสร้างจินตนาการให้ลูก
การใช้สีหน้า น้ำเสียง และท่าทางประกอบ ทำให้ลูกได้ใช้จินตนาการคิดภาพตามเรื่องราวที่คุณพ่อคุณแม่เล่า การฝึกให้ลูกใช้จินตนาการเปลี่ยนจากเสียงที่ได้ยินเป็นภาพที่คิดขึ้นมาเอง จะช่วยพัฒนาความฉลาดของลูกได้เป็นอย่างดี
2. เป็นเครื่องมือพัฒนาการด้านภาษา
ส่วนสมองของลูกจะจดจำและบันทึกท่าทางที่คุณพ่อคุณแม่ใช้ประกอบการเล่านิทานเห็น เช่น สวัสดี บ๊ายบาย รวมไปถึงการเลียนเสียงเจ้าสัตว์ต่างๆ หรือเสียงธรรมชาติต่างๆ ทำให้ลูกสามารถเรียนรู้และเข้าใจความหมายของคำหรือคำศัพท์ใหม่ๆ มากขึ้นหากลูกได้เห็นบ่อยๆ จะสามารถรับรู้และเข้าใจความหมายของคำนั้นได้ค่ะ
3. เด็กๆ สามารถเชื่อมโยงเหตุผลได้
นิทานส่วนมากจะดำเนินเรื่องไปตามเหตุและผลทำให้ลูกเรียนรู้ความเชื่อมโยงของสิ่งต่างๆ ได้ดี เช่น ตัวละครไม่ยอมแปรงฟันทำให้เกิดฟันผุ เมื่อลูกเรียนรู้ความเชื่อมโยงของการแปรงฟันกับโรคฟันผุ ลูกก็จะเข้าใจและคิดได้เองว่า ถ้าไม่อยากฟันผุก็ต้องขยันแปรงฟัน
4. ช่วงเวลาอ่านหรือเล่านิทานให้ลูกฟัง เป็นช่วงเวลาสร้างความอบอุ่นในครอบครัว
การอ่านหรือเล่านิทานให้ลูกฟัง นอกจากจะส่งเสริมพัฒนาการทางสมองให้ลูกแล้ว ยังช่วยสร้างความสัมพันธ์อันดีระหว่างพ่อแม่กับลูกน้อย เพราะช่วงเวลาที่คุณพ่อคุณแม่ใช้อ่านหรือเล่านิทานให้ลูกฟังนั้น ถือเป็นการแสดงออกถึงความรักได้เป็นอย่างดี เด็กที่ได้รับความรัก ความอบอุ่นจากคุณพ่อคุณแม่ จะเป็นเด็กมีพัฒนาการที่ดี ฉลาดทางอารมณ์และสติปัญญา
รู้อย่างนี้แล้วคุณพ่อคุณแม่ลองมองหานิทานหรือหนังสือดีๆ เตรียมไว้ที่บ้านและมอบเวลาที่วิเศษนี้ให้กับลูกกันค่ะ
COMMENTS ARE OFF THIS POST