พอเป็นพ่อแม่เต็มตัว ความสำคัญและความสนใจแทบทั้งหมดในชีวิตก็ทุ่มเทให้กับลูก มากเสียจนบางครั้งคุณพ่อคุณแม่ก็ลืมที่จะดูแลตัวเองสุขภาพร่างกายและจิตใจของตัวเอง

เพราะอยากจะเลี้ยงลูกให้ดีที่สุด จนลืมคิดไปว่าการปล่อยให้ตัวเองแบกรับภาระหน้าที่ที่เหนื่อยและหนักอยู่ตลอดเวลา อาจนำมาซึ่งความเครียดและเหนื่อยล้าสะสม จิตใจหม่นหมอง เหี่ยวเฉา และไม่มีความสุขในการเลี้ยงลูกอย่างที่ควรจะเป็น

เราเข้าใจดีว่าการเป็นคุณพ่อคุณแม่ไม่ใช่งานง่าย ไม่มีเวลาเริ่มและเลิกงานที่แน่นอน คำว่าพักผ่อนแทบจะไม่ได้รู้จักกันอีก พอไม่ได้พักผ่อนก็จะเหนื่อย พอเหนื่อยก็จะเครียด และกลายเป็นคนที่หงุดหงิดง่าย พอนานไปก็อาจเกิดความรู้สึกเหี่ยวเฉา เบื่อหน่าย และหมดไฟในการเลี้ยงลูกได้โดยไม่รู้ตัวเอง

ดังนั้น เราจะชวนคุณพ่อคุณแม่มาสูดหายใจลึกๆ แล้วหาวิธีเรียกพลังตัวเองให้กลับมาเป็นพ่อแม่ที่เลี้ยงลูกอย่างมีความสุขกันดีกว่าค่ะ

1. ตั้งสติกับทุกปัญหาที่เกิดขึ้น

เวลาที่รู้สึกเหนื่อยล้าจนหาทางออกให้ตัวเองไม่ได้ ลองตั้งสติแล้วถามตัวเองว่า กำลังทำอะไรอยู่ กำลังเอาแต่คิดมาก คิดวนไปมาไม่จบสิ้นใช่หรือไม่ ถ้าใช่ ก็จะได้หยุดคิด แล้วไปเริ่มต้นลงมือทำเสียที หรือบอกตัวเองให้ไปชาร์จพลังด้วยการนอนหลับพักผ่อน แล้วค่อยลุกขึ้นมาแก้ปัญหาใหม่ ทั้งหมดนี้ต้องอาศัยการฝึกสติหรือการมี mindfulness เพื่อให้เรารู้เท่าทันจิตใจที่กำลังคิดฟุ้งซ่าน แล้วดึงสติกลับมาอยู่กับปัจจุบันให้ได้นั่นเอง

2. ออกกำลังกายและพักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ

มีหลายงานวิจัยระบุว่า การนอนไม่หลับเกิดขึ้นเพราะสมองที่ยังไม่หยุดคิด รวมถึงการไม่ได้ปลดปล่อยพลังงาน ใช้ร่างกาย หรือออกกำลังกายให้รู้สึกกระชุ่มกระชวย ก็มีส่วนทำให้สมองมีเวลาคิดหมกมุ่นและฟุ้งซ่านมากขึ้น กลายเป็นต้นเหตุของอาการนอนไม่หลับ และนอนหลับไม่เพียงพอ ซึ่งส่งผลทำให้จิตใจและอารมณ์ไม่แจ่มใสในวันถัดไปได้อีกด้วย

3. ทบทวนปัญหา

คุณพ่อคุณแม่ต้องลองสังเกตว่า เวลาที่เราเครียด มันอดไม่ได้ที่จะคิดซ้ำไปซำ้มาหรือเชื่อมโยงเหตุการณ์ต่อไปไปเรื่อยๆ แต่ยิ่งคิดก็ยิ่งจับประเด็นไม่ได้และออกห่างจากต้นเหตุของปัญหามากขึ้นเรื่อยๆ จึงไม่รู้ว่าจะแก้ปัญหาได้อย่างไร

ถ้าอย่างนั้น ลองทบทวนปัญหา หรือเขียนสิ่งที่สับสนวนเวียนอยู่ในสมองออกมาให้หมด เพื่อจัดระเบียบความคิดของตัวเองให้เป็นรูปเป็นร่าง และค่อยๆ หาวิธีจัดการไปทีละเรื่องก็ยังได้

4. หาเวลาผ่อนคลายให้ตัวเองบ้าง

แม้ว่าคุณพ่อคุณแม่จะพยายามเป็นพ่อแม่ที่ดีให้ลูกมากแค่ไหน ก็ต้องไม่ลืมที่จะดูแลสุขภาพจิตใจของตัวเอง ด้วยการหาเวลาพักผ่อนจากความเหนื่อยล้า และอนุญาตให้ตัวเองได้ผ่อนคลายจากความเครียดและการเลี้ยงดูลูกด้วยกิจกรรมที่ตัวเองชอบ หรือมีเวลาทำอะไรคนเดียวบ้าง

อ้างอิง
hbr