ธรรมชาติของเด็ก โดยเฉพาะช่วง 3-5 ปี ยังห่วงเล่น ทำให้หลายครั้งลูกลืมของใช้ส่วนตัว จึงจำเป็นที่พ่อแม่ควรสอนและปลูกฝังความรับผิดชอบ รักษาสมบัติส่วนตัวให้กับลูก ตั้งแต่ยังเล็ก
1. ช่วยลูกจัดกระเป๋า
คุณพ่อคุณแม่ควรสำรวจกระเป๋าของลูกในแต่ละวัน ลูกควรเอาอะไรไปโรงเรียนบ้าง สิ่งของไหนที่ไม่จำเป็นควรหยิบออก ให้ลูกเอาของใช้ไปเท่าที่จำเป็น เพื่อให้ลูกมีของที่ต้องรับผิดชอบน้อยลง
2. ชื่นชมลูกเมื่อรักษาของได้
เมื่อลูกนำของใช้กลับบ้านมาครบทุกชิ้น คุณพ่อคุณแม่ควรกล่าวชื่นชม ให้ลูกรู้สึกว่าสิ่งที่ทำมีประโยชน์ มีค่า เกิดความภาคภูมิใจ ครั้งต่อไป ลูกจะพยายามรักษาของใช้มากขึ้น
3. แสดงความเป็นเจ้าของ
สิ่งของที่คุณพ่อคุณแม่เขียนชื่อได้ ให้เขียนลงไป เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของไม่ว่าจะเป็น เขียนชื่อลงบนรองเท้า เสื้อหนาว กระติกน้ำ หรือเครื่องเขียน เพื่อป้องกันความสับสนหรือจำผิดกับของของเพื่อนได้
4. สอนลูกให้เข้าใจความหมายของคำว่าของหาย
ลูกจะไม่รู้ว่า การไม่รักษาของ อาจทำของหาย และของหายแปลว่าลูกจะไม่ได้ใช้หรือมีของสิ่งนั้นอีกต่อไปแล้ว คุณพ่อคุณแม่ควรสอนให้ลูกเข้าใจง่ายๆ โดยสมมติจากสิ่งที่ลูกชอบ เช่น ให้ลูกเล่นของเล่นรถไฟสามขบวน ถ้าเหลือเพียงสองขบวน นั่นหมายความว่ามีขบวนหนึ่งหายไปแล้ว
5. เป็นตัวอย่างให้ลูกเห็น
วิธีเรียนรู้ที่ดีที่สุดของเด็กคือ การเห็นตัวอย่างจากพ่อแม่ ต้องทำให้ลูกเห็นและพูดสอนให้ลูกเข้าใจ ยกตัวอย่างเช่น หากอยากให้ลูกเก็บของเล่นเบาๆ คุณพ่อคุณแม่ต้องค่อยๆ วางของเล่นลงกล่อง ไม่โยนหรือเขวี้ยง และให้ลูกทำตาม
6. อย่าไปตำหนิลูก
นอกจากทำให้ลูกเสียใจแล้ว ลูกยังไม่เข้าใจอยู่ดีว่าทำไมพ่อแม่ถึงต้องเดือดร้อนกับการทำของหาย ดังนั้นให้สอนหลักเหตุและผล ทำให้ลูกเข้าใจว่าทำไมหลังเล่นเสร็จ ต้องเก็บของให้เข้าที่ ควบคู่ไปกับการเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกเห็น
7. สอนให้ลูกรู้จักคุณค่าของสิ่งของ
อธิบายคุณค่าของสิ่งของทุกชิ้นที่ลูกใช้ เช่น บอกกับลูกว่า รองเท้าใส่เพื่อป้องกันเท้า ดินสอใช้เพื่อเขียนหนังสือ รวมถึงของเล่น ไม่จำเป็นต้องให้ลูกมีมากหรือมีซ้ำกันหลายชิ้น เพราะลูกจะไม่ค่อยเห็นคุณค่าของสิ่งของ
ดังนั้นควรตั้งเงื่อนไขบางอย่าง เพื่อให้ลูกพยายามเพื่อให้ได้สิ่งนั้นมา เช่น ช่วยแม่ทำงานบ้านก่อน แล้วจึงให้ของเล่นตอบแทน
COMMENTS ARE OFF THIS POST