READING

ลูกวัยรุ่น: 4 พฤติกรรมของพ่อแม่ ที่ทำให้การเป็นวัย...

ลูกวัยรุ่น: 4 พฤติกรรมของพ่อแม่ ที่ทำให้การเป็นวัยรุ่นมันเหนื่อย!

ลูกวัยรุ่น

เมื่อตอนที่ลูกยังเล็ก คุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจจะเคยคิดว่าลูกเป็นเด็กน่ารัก ช่างเอาอกเอาใจ เลี้ยงง่าย พูดอะไรก็เชื่อฟัง แต่พอลูกเข้าสู่ช่วงวัยรุ่น จากที่เคยว่านอนสอนง่าย ก็เริ่มดื้อ ต่อต้าน จากที่เคยตามติดคุณพ่อคุณแม่ ก็เริ่มชอบเก็บตัว อยู่คนเดียว และอยู่กับเพื่อนมากกว่า พฤติกรรมเหล่านี้ ทำให้ครอบครัวที่มี ลูกวัยรุ่น เริ่มหนักใจและไม่รู้ว่าจะรับมือ ลูกวัยรุ่น อย่างไรดี

องค์กรอนามัยโลก (WHO) ได้กำหนดเอาไว้ว่าเด็กจะเริ่มเข้าสู่วัยรุ่น เมื่ออายุ 10 – 19 ปี ซึ่งเป็นช่วงวัยที่เด็กมีการเปลี่ยนแปลงทางด้านร่างกายและจิตใจอย่างรวดเร็ว

มีงานวิจัยจาก Max Planck Institute สถาบันเพื่อการพัฒนามนุษย์ พบว่า เส้นใยสมองของเด็กวัยรุ่นอายุ 13 – 17 ปี มีความเหมือนกับพัฒนาการสมองของเด็ก ช่วงอายุ 2 – 3 ปี ซึ่งเป็นช่วงวัยที่พ่อแม่ต้องใช้ทั้งความเข้าใจและอดทนเพื่อให้ผ่านพ้นพฤติกรรมก้าวร้าว ดื้อ ต่อต้าน ร้องอาละวาด และเอาแต่ใจ ตามประสาวัยทองของเด็กเล็กมาก่อน จึงไม่น่าแปลกใจเลยที่ลูกในสองช่วงวัยจะมีพฤติกรรมที่สร้างความหนักใจให้คุณพ่อคุณแม่ได้คล้ายกัน

ในทางกลับกัน ยิ่งรู้สึกเป็นห่วงและกังวลมากเท่าไร ก็ยิ่งทำให้คุณพ่อคุณแม่อยากดูแลเอาใจใส่ลูกมากขึ้นเท่านั้น แต่แทนที่ความหวังดีนั้นจะช่วยลดช่องว่างระหว่างคุณพ่อคุณแม่กับลูกวัยรุ่น กลับกลายเป็นทำให้ลูกอึดอัด ไม่มีความสุข และอยากเว้นระยะห่างกับพ่อแม่มากขึ้นไปอีก

4 พฤติกรรมของพ่อแม่ ที่ไม่ถูกใจลูกวัยรุ่น

1. คอยจัดการทุกเรื่อง

Preteens_web_1

คุณพ่อคุณแม่หลายคนเข้าใจว่า เคยดูแลเอาใจใส่และใกล้ชิดลูกตอนเด็กๆ ยังไง เมื่อลูกโตขึ้นก็ควรทำให้ได้แบบนั้น แต่ความจริงแล้ว เมื่อลูกโตพอที่จะดูแลตัวเอง เริ่มมีความคิดเป็นของตัวเอง โดยเฉพาะเมื่อลูกเข้าสู่วัยรุ่น คุณพ่อคุณแม่ควรเปิดโอกาสให้ลูกได้คิดและตัดสินใจเรื่องสำคัญๆ ในชีวิตตัวเอง โดยมีคุณพ่อคุณแม่คอยสนับสนุน ส่งเสริม และให้ความช่วยเหลืออยู่ใกล้ๆ

เพราะคุณพ่อคุณแม่ที่คอยจัดการทุกอย่าง จะทำให้ลูกวัยรุ่นรู้สึกไม่เป็นตัวของตัวเอง ถูกก้าวก่าย รุกล้ำความเป็นส่วนตัว และไม่ได้ใช้ศักยภาพของตัวเองในการดำเนินชีวิตอย่างเต็มที่ ส่งผลให้ลูกอึดอัด ปิดกั้นตัวเอง ไม่อยากบอกอะไรคุณพ่อคุณแม่ และมีแนวโน้มที่จะขาดทักษะการแก้ปัญหา หรือแก้ปัญหาด้วยวิธีที่ผิด เพราะต้องการพึ่งพาหรือขอความช่วยเหลือจากคุณพ่อคุณแม่ให้น้อยที่สุด

2. เชื่อว่าพ่อแม่ถูกต้องเสมอ

Preteens_web_2

ถึงแม้วัยรุ่นจะเป็นวัยแห่งอารมณ์พุ่งพล่าน แต่ในอีกด้าน วัยรุ่นก็ต้องการการอธิบายที่เป็นเหตุเป็นผล มีข้อพิสูจน์ มีความน่าเชื่อถือ ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่จะใช้ค่านิยมหรือชุดความคิดที่ว่า พ่อแม่เป็นฝ่ายถูกเสมอ กับลูกวัยรุ่นไม่ได้อีกต่อไปแล้ว

สิ่งที่ควรทำก็คือ คุณพ่อคุณแม่ต้องยอมรับว่าบางครั้งพ่อแม่ก็ทำผิดพลาด เช่น มีความเชื่อผิดๆ ขาดความรับผิดชอบ ขาดวุฒิภาวะ และเต็มใจที่จะเป็นฝ่ายขอโทษ เมื่อทำให้ลูกรู้สึกผิดหวัง เพราะพ่อแม่ไม่ใช่คนที่ถูกเสมอนั่นเอง

3. เปรียบเทียบลูกกับตัวเองในอดีต

Preteens_web_3

พ่อแม่เป็นไอดอลและฮีโร่ของลูกได้ แต่คุณพ่อคุณแม่บางคนชอบเปรียบเทียบลูกกับตัวเองในอดีต เช่น ตอนพ่ออายุเท่านี้ พ่อทำได้ยิ่งกว่านี้, ตอนแม่อายุเท่าลูก แม่ไม่เคยทำตัวอย่างนี้ ฯลฯ เพราะหวังจะให้ลูกมองคุณพ่อคุณแม่เป็นต้นแบบและพยายามทำให้ได้อย่างที่พ่อแม่เคยทำ

แต่คุณพ่อคุณแม่ต้องไม่ลืมว่า ปัจจัยแวดล้อมของชีวิตคนเราแตกต่างกัน ความสำเร็จของคนรุ่นก่อนอาจไม่ใช่สิ่งที่วัยรุ่นปัจจุบันใฝ่ฝันอีกต่อไปแล้ว ดังนั้น แทนที่จะพยายามเปรียบเทียบลูกกับตัวเองในอดีต คุณพ่อคุณแม่ลองเรียนรู้และเข้าใจโลกปัจจุบันของลูก จะเป็นผลดีต่อลูกวัยรุ่นมากกว่าค่ะ

4. ควบคุม ตีกรอบ และจู้จี้จุกจิกมากเกินไป

Preteens_web_4

วัยรุ่นเป็นวัยที่ต้องการอิสระ ไม่ว่าจะเป็นการใช้ชีวิตหรือการแสดงความคิดเห็น จึงไม่ชอบให้ใครมาตีกรอบ ควบคุม หรือออกคำสั่งว่าต้องทำและไม่ทำอะไรบ้าง คุณพ่อคุณแม่ที่เข้มงวดและจู้จี้จุกจิกมากเกินไป จึงมีโอกาสที่จะเกิดความขัดแย้งและกระทบกระทั่งกับลูกวัยรุ่นได้ง่าย เพราะพฤติกรรมดังกล่าวไม่เพียงทำให้ลูกหงุดหงิดรำคาญใจ แต่ยังส่งผลให้ลูกพยายามฝืนกฎ ดื้อ และต่อต้านคุณพ่อคุณแม่ จนกลายเป็นฉนวนความขัดแย้งในครอบครัวต่อไปได้

อ้างอิง
ronitbaras
Focus on the Family
childmind
pobpad
Phyathai Hospital

Supinya R.

ชอบอ่านนิยายสยองขวัญ ชอบเขียนไดอารี่ และเป็นคุณแม่จำเป็นในบางเวลา :-)

RELATED POST

COMMENTS ARE OFF THIS POST