กว่าหนึ่งในสี่ของผู้ปกครองชาวอังกฤษคิดว่าฟันน้ำนมผุนั้นไม่เป็นไร… แต่จริงๆ แล้วเราควรใส่ใจต่อปัญหาสุขภาพฟันของลูก เพราะมันเพิ่มความเสี่ยงต่อปัญหาสุขภาพอื่นๆ ด้วย

จากผลการวิจัย ผู้ปกครองชาวอังกฤษนับล้านคน กำลังเพิ่มความเสี่ยงต่อสุขภาพในทุกๆ ด้านของเด็ก ด้วยการไม่ดูแลฟันของลูกให้ถูกวิธี โดยหนึ่งในสี่ของผู้ปกครองคิดว่า การที่ฟันน้ำนมผุนั้นไม่เป็นปัญหา และกำลังขาดความรู้เกี่ยวกับสุขภาพในช่องปากของเด็ก

และเกือบหนึ่งในสามของผู้ปกครองในสหราชอาณาจักร มักรอจนกว่าลูกๆ จะมีฟันน้ำนมทั้งหมด ก่อนที่จะพาไปพบทันตแพทย์เป็นครั้งแรก (ตามการศึกษาจากพ่อแม่ 1,000 คน ที่มีลูกอายุต่ำกว่า 13 ปี)

ไนรี ไวต์ลี—ผู้อำนวยการคลินิกกลุ่มหนึ่งและผู้นำวิจัยกล่าวว่า “มีความเข้าใจผิดกันว่า ฟันทารกไม่สำคัญ แต่ความจริงก็คือ ฟันของทารกมีความจำเป็นสำหรับการพูด โครงสร้างใบหน้า และเป็นจุดกำเนิดของฟันแท้ต่อไป ซึ่งหากมีการผุกร่อน อาจทำให้ติดเชื้อ ไม่สบาย และอาจทำให้ฟันแท้เสียหายได้ในอนาคต”

สิ่งสำคัญคือพ่อแม่ต้องพาลูกไปหาทันตแพทย์ให้เร็วที่สุด ตั้งแต่เขามีฟันขึ้นซี่แรก หรือมีความเปลี่ยนแปลงอะไรในช่องปาก แค่ต้องพาไปให้เร็วที่สุด

การพบทันตแพทย์และดูแลรักษาฟัน ด้วยการใช้ยาสีฟันที่มีส่วนผสมของฟลูออไรด์ ก็ช่วยป้องกันฟันผุได้ ทว่า มากกว่าครึ่งของพ่อแม่ในสหราชอาณาจักร ยังหยุดช่วยลูกแปรงฟันเร็วเกินไปด้วย และสองในสามยังไม่ทราบว่า เด็กควรใช้แปรงสีฟันลักษณะไหน

ในขณะที่ผู้ปกครองหลายคนยอมรับด้วยว่า ตัวเองสับสนเรื่องฟลูออไรด์ในยาสีฟัน โดยครึ่งหนึ่งบอกว่า พวกเขาไม่ได้ตรวจสอบ หรือไม่ทราบว่าควรมีฟลูออไรด์ผสมในยาสีฟันจำนวนเท่าไร และหนึ่งในสิบของผู้ปกครอง ยังมักให้ลูกดื่มน้ำผลไม้หลังจากแปรงฟันและก่อนเข้านอน

เกือบหนึ่งในสามมีความสุขที่จะให้ลูกๆ ดื่มนมหนึ่งแก้วก่อนนอน ซึ่งนับเป็นสาเหตุสำคัญหนึ่ง ที่ทำให้เด็กฟันผุ เพราะนมมีน้ำตาลโดยธรรมชาติอยู

ไนรีกล่าวเสริมว่า “มันอาจจะยากสำหรับผู้ปกครอง ที่จะหาคำแนะนำที่ถูกต้องเกี่ยวกับสุขภาพช่องปากของเด็กๆ ได้ จึงเป็นเหตุผลที่เราต้องให้คำแนะนำในการแปรงฟันให้เด็กๆ กับพ่อแม่ เพราะการช่วยให้เด็กมีเทคนิคการแปรงฟันดี สามารถช่วยให้พวกเขามีสุขภาพช่องปากที่ดีได้ตลอดชีวิต”

อ้างอิง
The Sun