สำนักข่าว รอยเตอร์ รายงานว่า ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคของสหรัฐ (CDC) เปิดเผยในวันศุกร์ที่ 22 ก.ค. 2565 ที่ผ่านมาว่า มีรายงานพบเด็กเล็กติดเชื้อไวรัสฝีดาษลิงภายในประเทศเป็นครั้งแรก โดยรายหนึ่งอยู่ในรัฐแคลิฟอร์เนีย ส่วนอีกรายไม่ใช่พลเมืองอเมริกัน
CDC ระบุอีกว่า เด็กที่ติดเชื้อทั้ง 2 รายไม่มีความเกี่ยวข้องกัน และกรณีนี้น่าจะเป็นผลจากการติดต่อภายในครัวเรือนมากกว่า โดยเด็กๆ ยังคงแข็งแรงและกำลังรับการรักษา
ทั้งนี้ ไวรัสฝีดาษลิงซึ่งทำให้เกิดอาการป่วยคล้ายไข้หวัดใหญ่และตุ่มตามผิวหนัง ระบาดนอกแอฟริกากลางและตะวันตกเป็นครั้งแรกในปีนี้ ทำให้มีผู้ติดเชื้อแล้วมากกว่า 16,000 รายจาก 75 ประเทศ และมีผู้เสียชีวิตแล้ว 5 ศพในแอฟริกา จนล่าสุดองค์การอนามัยโลกต้องประกาศให้เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ
ดร.เจนนิเฟอร์ แมกควิสตัน รองผู้อำนวยการแผนกเชื้อโรคที่มีผลกระทบสูงของ CDC กล่าวว่า เธอไม่ประหลาดใจที่พบการติดเชื้อฝีดาษลิงในเด็กเล็ก แต่จนถึงตอนนี้ยังไม่มีหลักฐานว่า ไวรัสกำลังแพร่กระจายนอกกลุ่มคนรักเพศเดียวกัน หรือชายที่มีเพศสัมพันธ์กับผู้ชาย โดย 99% จากผู้ติดเชื้อ 2,891 รายในสหรัฐฯ อยู่ในคนกลุ่มนี้ ขณะที่พบผู้หญิงและชายข้ามเพศติดเชื้อจำนวนหนึ่ง
ด้าน ดร.อาชิช จา ผู้ประสานงานการตอบสนองต่อการระบาดของโควิด-19 แห่งทำเนียบขาวสหรัฐฯ เผยว่า รัฐบาลได้ส่งมอบวัคซีนต้านไวรัสฝีดาษลิงไปแล้ว 300,000 โดส และกำลังเร่งกระบวนการขนส่งวัคซีนจากเดนมาร์กอีก 786,000 โดส ดร.จาย้ำด้วยว่า ตอนนี้พวกเขามีวัคซีนเพียงพอ และฉีดเข็มแรกให้แก่ผู้เข้าเกณฑ์ในนครนิวยอร์กไปแล้วเกินครึ่ง
ดร.จา เผยอีกว่า ตอนนี้รัฐบาลกำลังประเมินว่า จะประกาศให้การระบาดของฝีดาษลิงในประเทศ เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขหรือไม่
COMMENTS ARE OFF THIS POST