แฮชแท็ก #AlmondMom เป็นเทรนด์ที่เกิดขึ้นใน TikTok โดยเริ่มจากการมีผู้ใช้งานท่านหนึ่งได้แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับ ‘การคุมอาหารลูกสาว’ ของ Yolanda Hadid คุณแม่ของนางแบบดังระดับโลก Gigi Hadid ว่าเป็นพฤติกรรมเหมาะสมหรือไม่ และการคุมอาหารส่งผลดีต่อสุขภาพเด็กๆ จริงหรือ
Almond Mom คือ พฤติกรรมของคุณแม่ที่มักจะคอยควบคุมพฤติกรรมการกินของลูกสาวให้อยู่ในเกณฑ์ที่ตัวเองคิดว่าเหมาะสม และให้ลูกกินแต่อาหารสำหรับการลดน้ำหนัก เช่น อัลมอนด์ ธัญพืชต่างๆ นอกจากนี้ยังจำกัดไม่ให้ลูกกินของหวาน และมักจะคอยวิจารณ์รูปร่างของลูกอยู่เสมอด้วย
Dr. Karla แพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชการและผู้ก่อตั้งเพจ IME Community เผยว่า การเป็น Almond Mom หรือ คุณแม่คลั่งผอม ส่งผลเสียต่อพัฒนาการของลูกเป็นอย่างมาก นอกจากลูกจะไม่ได้รับสารอาหารที่เพียงพอต่อการเจริญเติบโตแล้ว ยังส่งผลกระทบต่อสภาพจิตใจของลูก เธอจึงสนับสนุนให้ทุกคนเห็นผลเสียของแนวคิดดังกล่าว และส่งต่อแนวทางหลีกเลี่ยงการเป็นคุณแม่คลั่งผอมอีกด้วย
1. อย่านิยามว่าอาหารนี้ ‘ดี’ อาหารนั้น ‘แย่’
สิ่งแรกที่คุณแม่ควรหลีกเลี่ยง คือ การนิยามอาหารและปลูกฝังให้ลูกมีความเชื่อตามที่คุณแม่ต้องการ เช่น กินคุกกี้ทำให้อ้วน หรือกินผักแล้วจะดี เพราะความจริงแล้วอาหารทุกชนิดต่างก็มีข้อดีและข้อเสีย หากลูกเลือกกินอาหารอย่างใดอย่างหนึ่งในปริมาณมากเกินพอดี ก็ย่อมส่งผลเสียต่อสุขภาพได้เช่นกัน
คุณแม่ควรสนับสนุนให้ลูกกินอาหารครบ 5 หมู่ ตามสัดส่วนที่ร่างกายต้องการอย่างเหมาะสม และยอมให้ลูกกินขนมจุกจิกบ้างตามโอกาส เพื่อสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงตามวัย และสุขภาพทางจิตใจของเจ้าตัวเล็กด้วยค่ะ
2. อย่านำเกณฑ์การลดน้ำหนักมาใช้กับลูก
การคุมอาหาร หรือไดเอ็ต (Diet) เป็นเรื่องปกติสำหรับผู้ใหญ่ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก แต่การนำหลักการนี้มาใช้กับลูก หรือเด็กวัยเจริญเติบโต อาจทำให้คุณแม่กลายเป็นคุณแม่คลั่งผอมโดยไม่รู้ตัวได้
เนื่องจากเด็กคือวัยที่ร่างกายและสมองกำลังต้องการสารอาหารให้เพียงพอที่ใช้ในกระบวนการเจริญเติบโตและส่งเสริมพัฒนาการให้เป็นไปตามช่วงวัย การควบคุมแคลอรี่อย่างหักโหม เข้มงวด และลดจำนวนมื้ออาหารเหลือวันละ 2 มื้อ หรือการให้ลูกกินไข่ต้ม 1 ฟองเป็นมื้อเย็นเพื่อคุมน้ำหนัก จึงไม่ใช่ทางเลือกที่ดีสำหรับการเติบโตของลูก
3. หยุดวิจารณ์รูปร่างลูก
บางครั้งคุณแม่ก็อาจเผลอทักหรือหยอกล้อลูกสาวเรื่องรูปร่าง เช่น ช่วงนี้อ้วนขึ้นรึเปล่า มีห่วงยางเป็นของตัวเองด้วย คำพูดเหล่านี้สามารถทำให้ลูกกลายเป็นเด็กขาดความมั่นใจ มีความเคารพในตัวเองต่ำ และยังเป็นการกระตุ้นให้ลูกมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อรูปร่างของตัวเองและคนอื่น เพิ่มโอกาสให้ลูกเติบโตไปเป็นเด็กชอบบุลลี่คนอื่นมากขึ้นเช่นกัน
4. เปิดใจให้อาหารที่คิดว่า ‘ไม่มีประโยชน์’ บ้าง
สำหรับคุณแม่สายสุขภาพแล้ว การเห็นคนรอบข้างกินอาหารที่ไม่มีประโยชน์ โดยเฉพาะคนในครอบครัว อาจทำให้เกิดความรู้สึกไม่สบายใจ ขัดใจ หรือเป็นห่วงเรื่องสุขภาพของคนคนนั้น แต่สำหรับลูกวัยกำลังซน การได้กินขนมหวานก็เหมือนเป็นการเพิ่มพลังงาน เติมกำลังใจ และช่วยให้ลูกอารมณ์ดีขึ้น
แนะนำให้คุณแม่ลองจัดตารางการกินอาหาร ให้ลูกได้กินทั้งอาหารที่มีประโยชน์และเปิดใจให้ขนมหวานเข้ามาช่วยเยียวยาจิตใจบ้าง โดยคุณแม่อาจจะตั้งเวลา Snack Time ไว้ช่วงเที่ยงถึงบ่าย ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ลูกต้องใช้พลังงาน และยังมีเวลาเหลือมากพอให้ร่างกายได้เผาผลาญพลังงานก่อนถึงเวลานอนอีกด้วย หรือลูกบ้านไหนชอบหิวกลางดึก คุณแม่อาจทำไอศกรีมจากผลไม้ที่ลูกชอบเก็บไว้ในตู้เย็น ให้ลูกหยิบกินเป็นของว่างให้ชื่นใจบ้างก็ได้เช่นกันค่ะ
COMMENTS ARE OFF THIS POST