ลูกเป็นผดร้อน เป็นอีกหนึ่งในปัญหาสุขภาพผิวหนังของลูกที่พบได้มากในเด็กเล็ก โดยเฉพาะในช่วงที่มีอากาศร้อน ผดเม็ดเล็กๆ ที่ขึ้นตามตัวลูกจะทำให้ลูกเกิดอาการคัน ไม่สบายตัว ยุกยิก และลูกอาจเกาจนผิวหนังเป็นแผลต่อไปได้

ถึงแม้ว่าอาการของผดร้อนมักจะไม่รุนแรงและหายเองได้ในเวลาไม่นาน แต่ช่วงที่มีอาการก็ทำให้ลูกรู้สึกไม่สบายตัวและร้องไห้งอแงมากกว่าปกติได้ ดังนั้น เราจึงมาบอกสาเหตุและวิธีป้องกันเมื่อ ลูกเป็นผดร้อน ให้คุณพ่อคุณแม่เตรียมรับสถานการณ์อากาศร้อนนี้ไปด้วยกันค่ะ

สาเหตุและอาการของผดร้อนในเด็ก

ผดร้อน มีสาเหตุมาจากการอุดตันของต่อมเหงื่อ ทำให้ผิวหนังไม่สามารถระบายเหงื่อออกมาได้ จนเกิดการอักเสบและกลายเป็นผื่นขึ้นมา

อาการทั่วไปของผดร้อน มักมีตุ่มเล็กๆ คล้ายตุ่มน้ำใสขึ้นตามร่างกาย มีอาการคัน ผิวเป็นรอยแดง แสบผิว โดยเฉพาะบริเวณที่ถูกเสียดสีได้ง่าย เช่น คอ ข้อพับ ขาหนีบ รักแร้ ส่วนเด็กโตมักจะพบในบริเวณหน้าอกหรือหลัง

วิธีป้องกัน ลูกเป็นผดร้อน

1. หลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่อากาศร้อน

ผดร้อน มักเกิดขึ้นในสภาพอากาศที่ร้อนหรือชื้น เพราะฉะนั้นคณพ่อคุณแม่ควรหลีกเลี่ยงการพาลูกออกไปทำกิจกรรมกลางแจ้ง ที่ทำให้เกิดเหงื่อออกสะสม พยายามให้ลูกอยู่ในพื้นที่ที่มีอากาศถ่ายเทและอุณหภูมิเหมาะสม

2. หมั่นสังเกตผิวของลูกอยู่เสมอ

คุณพ่อคุณแม่ควรหมั่นสังเกตผิวหนังของลูกโดยเฉพาะบริเวณที่มีเหงื่อออกมาก เช่น คอ ข้อพับ ขาหนีบ รักแร้ อยู่เสมอ หากพบว่าลูกเริ่มมีผดร้อนขึ้นตามบริเวณดังกล่าว ควรอาบน้ำทำความสะอาดร่างกาย หลีกเลี่ยงการใช้สบู่และที่ขัดผิว เพื่อป้องกันการระคายเคือง และปล่อยให้ลูกตัวแห้งเอง หรือใช้ผ้าขนหนูซับตัวลูกเบาๆ หลังอาบน้ำก็พอค่ะ

นอกจากนี้ คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรใช้แป้งเด็กทาบริเวณที่เกิดผดร้อน เพราะอาจทำให้แป้งไปอุดตันรูขุมขน จนทำให้ผิวหนังเกิดความร้อน ซึ่งอาจจะทำให้ต่อมเหงื่ออุดตันเพิ่มมากขึ้นไปอีก

3. ดื่มน้ำให้เพียงพอ

ช่วงอากาศร้อน คุณพ่อคุณแม่ควรให้ลูกได้ดื่มน้ำบ่อยๆ เพื่อป้องกันภาวะร่างกายขาดน้ำ และยังช่วยให้อุณหภูมิในร่างกายเย็นลง โดยเฉพาะในระหว่างทำกิจกรรมนอกบ้านหรืออยู่กลางแจ้ง ก็จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ร่างกายและผิวหนังมากขึ้น

4. ให้ลูกสวมเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี

อีกหนึ่งสาเหตุที่ทำให้ลูกเป็นผดร้อน เกิดจากการที่ให้ลูกใส่เสื้อผ้าที่ไม่ระบายอากาศ ผ้าใยสังเคราะห์ หรือสวมเสื้อผ้าหลายชั้นมากเกินไปดังนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรเลือกเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี ไม่รัดแน่นจนเกินไป และสามารถระบายเหงื่อได้ดี เพื่อป้องกันการสะสมเชื้อราและแบคทีเรียใต้ร่มผ้าอีกด้วย

โดยปกติแล้ว อาการผดร้อนสามารถหายเองได้ภายใน 2-3 วัน แต่ถ้าหากลูกมีอาการที่รุนแรงขึ้น เช่น ผิวหนังบริเวณที่เป็นผดบวม เกิดแผลพุพอง เป็นหนอง มีไข้ คุณพ่อคุณแม่ควรพาลูกไปพบแพทย์เพื่อรับการรักษาและดูแลอย่างถูกวิธีต่อไปนะคะ

 อ่านบทความ: อันตรายที่มากับฤดูร้อน

อ้างอิง
whattoexpect
phyathai
pobpad