วัยอนุบาลเป็นช่วงเวลาที่ลูกได้เป็นเด็กน้อยอย่างเต็มที่ คุณพ่อคุณแม่จะได้เห็นความสดใส รอยยิ้ม เสียงหัวเราะ และความแสบซนให้อยู่เสมอ แต่หากวันหนึ่งลูกเริ่มหาเหตุผลมากมายที่จะไม่ไปโรงเรียน เริ่มไม่อยากเจอเพื่อนบางคน มีพฤติกรรมที่ก้าวร้าว ร้องไห้บ่อย และไม่สดใสเหมือนเดิม นั่นอาจเป็นสัญญาณที่บอกว่าลูกกำลังถูกกลั่นแกล้ง ไม่ว่าจะเป็นงทางร่างกายหรือจิตใจได้

Tony Volk รองศาสตราจารย์ด้านการศึกษาเด็กและเยาวชนมหาวิทยาลัยบร็อก ประเทศแคนาดา ได้ระบุว่า เด็กที่ถูกกลั่นแกล้งซ้ำๆ มีแนวโน้มที่จะกลายเป็นเด็กที่คิดในแง่ลบ ตำหนิตัวเอง และสูญเสียความเป็นตัวของตัวเองไปในที่สุด

สอดคล้องกับที่นักจิตวิทยาเด็ก Joanne Cummings ผู้อำนวยการฝ่ายการระดมความรู้ที่ PREVNet เครือข่ายส่งเสริมความสัมพันธ์และการขจัดความรุนแรงระหว่างบุคคลและเยาวชน ประเทศแคนาดา ระบุว่า เด็กที่ถูกรังแกบ่อยๆ มักจะมีเพื่อนใหม่หรือทำกิจกรรมใหม่ๆ น้อยลง ส่งผลให้รู้สึกโดดเดี่ยว ไร้ค่า เสี่ยงที่จะเป็นโรคซึมเศร้า และโรควิตกกังวลได้ในอนาคต

เห็นผลเสียของการปล่อยให้ลูกถูกกลั่นแกล้งอย่างนี้แล้ว คุณพ่อคุณแม่คือคนสำคัญที่จะช่วยกู้หัวใจดวงน้อยของลูกให้กลับมาแข็งแรงและเติบโตต่อไปอย่างดีได้อีกครั้ง ด้วยวิธีต่อไปนี้

1. สร้างพื้นที่ปลอดภัยให้ลูก ด้วยความเข้าใจจากคุณพ่อคุณแม่

    เมื่อรู้ว่าลูกถูกกลั่นแกล้ง สิ่งแรกที่ช่วยลูกได้ดีคือ รับฟังโดยไม่ตัดสิน แสดงความเห็นอกเห็นใจ และเข้าใจในความเจ็บปวดที่ลูกได้รับ หากลูกรู้สึกเศร้าและร้องไห้ ก็ควรปล่อยให้ลูกได้ร้องไห้เพื่อแสดงความรู้สึกที่รุมเร้าออกมา แล้วแสดงทัศนคติเชิงบวกให้ลูกเห็นว่า ปัญหานี้จะต้องได้รับการแก้ไข และการกลั่นแกล้งคนอื่นเป็นเรื่องไม่ถูกต้อง ไม่ควรจะมีใครถูกทำให้ต้องรู้สึกไม่ปลอดภัยต่อร่างกายและจิตใจ เพื่อทำให้ลูกรู้ว่า อย่างน้อยพื้นที่ข้างๆ คุณพ่อคุณแม่ก็จะเป็นพื้นที่ปลอดภัย ที่ลูกจะได้รับการช่วยเหลือและความเข้าใจเสมอ

2. ใช้เวลาอยู่ด้วยกันอย่างเต็มที่

สิ่งสำคัญที่จะช่วยดูแลจิตใจที่บอบช้ำของลูกได้ก็คือ การมีช่วงเวลาคุณภาพในครอบครัว การได้อยู่ด้วยกัน เล่นด้วยกัน ทำกิจกรรมที่สนุกสนาน หัวเราะ พูดคุย และแลกเปลี่ยนความรู้สึกซึ่งกันและกัน

เหมือนอย่างที่ โจแอนน์ คัมมิงส์—นักจิตวิทยาเด็ก ยืนยันว่า สิ่งเหล่านี้จะช่วยกระชับความสัมพันธ์ในครอบครัวและทำให้ลูกรู้สึกภาคภูมิใจในตัวเองมากขึ้น

3. พัฒนาทักษะการเข้าสังคมและสร้างความมั่นใจให้ลูกด้วย Play Group

คุณพ่อคุณแม่สามารถพาลูกไปสมัครเข้าร่วมทีมกีฬา เรียนศิลปะ เรียนเต้นเข้าเกิร์ลกรุ๊ป บอยแบนด์ หรือทำกิจกรรมร่วมกลุ่มที่ลูกสนใจ เพื่อพัฒนาทักษะการเข้าสังคม รวมถึงยังเป็นโอกาสที่ลูกจะได้พัฒนาศักยภาพของตัวเอง เพื่อนำไปสู่การมีเป้าหมายในชีวิตและการเห็นคุณค่าของตัวเองมากขึ้น

4. เพิ่มพลังงานบวกให้กับลูก

การโอบกอดและแสดงความรักจากคุณพ่อคุณแม่ เป็นวิธีเพิ่มพลังงานบวกให้กับลูกได้ในทุกสถานการณ์ โดยเฉพาะเมื่อลูกรู้สึกอ่อนแอจากการโดนกลั่นแกล้งมาจากนอกบ้าน คุณพ่อคุณแม่ยิ่งต้องโอบกอด เพื่อปลอบและเป็นกำลังใจให้ลูกกล้ายืนหยัดเพื่อปกป้องตัวเอง ซึ่งลูกสามารถแสดงออกให้เพื่อนรู้ด้วยท่าทีที่เข้มแข็งแต่เป็นมิตร และหากลูกพยายามด้วยตัวเองแล้วยังไม่ได้ผล คุณพ่อคุณแม่ต้องสอนให้ลูกกล้าขอความช่วยเหลือจากคุณครูด้วย

ในอีกด้านหนึ่ง คุณพ่อคุณแม่สามารถพูดคุยและแก้ปัญหาร่วมกับคุณครูประจำชั้น เพื่อติดตามเด็กที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสมและสุดท้ายคือการส่งเสริมให้ลูกมีโอกาสสร้างความสัมพันธ์ที่ดีกับเพื่อนคนอื่น เพราะเมื่อลูกมีเพื่อนที่รู้สึกสนิทใจด้วย ก็จะรู้สึกว่าตัวเองเป็นที่รัก กล้าที่จะเป็นตัวของตัวเอง และรู้จักปกป้องคนอื่นต่อไป

ที่มา 
todaysparent
todaysparent
trinityys