การเอาชนะ ความกดดัน อาจเป็นเรื่องท้าทายสำหรับผู้ใหญ่ คุณพ่อคุณแม่หลายคนจึงคิดว่า การทำให้ลูกรู้สึกกดดัน จะช่วยให้ลูกรู้สึกอยากพัฒนาตัวเองและมีภูมิต้านทานที่จะรับแรงกดดันที่มากขึ้นในอนาคต
แต่ความจริงแล้ว เด็กแต่ละคนมีความสามารถในการรับ ความกดดัน ไม่เท่ากัน การกดดันลูกแม้แต่เรื่องเล็กๆ น้อยๆ เช่น บอกให้ลูกแข่งกีฬาให้ชนะ บอกให้สอบได้คะแนนดีๆ ไม่ว่าจะโดยตั้งใจหรือไม่ก็ตาม สำหรับเด็กบางคนอาจรู้สึกว่ากำลังถูกกดดันมากเกินไป จนกลายเป็นความเครียดและส่งผลต่อการใช้ชีวิตด้านอื่นได้
สัญญาณที่แสดงว่าลูกกำลังรู้สึกถูกกดดัน
1. ลูกนอนไม่หลับและฝันร้าย

เด็กๆ มักสะท้อนสิ่งที่กำลังกังวลและไม่สบายใจออกมาขณะนอนหลับ เช่น นอนฝันร้าย ละเมอ หรือแม้แต่กังวลจนนอนไม่หลับ หรือหลับไม่สนิทติดต่อกันนานหลายคืน
2. ลูกกลัวที่จะบอกความจริง

เด็กที่รู้สึกกดดันจากความคาดหวังของคุณพ่อคุณแม่ มักจะไม่กล้าเล่าหรือบอกเรื่องสำคัญของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นคะแนนสอบ ผลการเรียน หรือผลการแข่งขันเกมกีฬาต่างๆ เพราะกลัวว่าจะทำให้คุณพ่อคุณแม่ผิดหวัง และอาจร้ายแรงถึงขั้นจูงใจให้ลูกโกหก หรือโกง เพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่คุณพ่อคุณแม่พอใจได้
3. ลูกขาดความกระตือรือร้น และสูญเสียความมั่นใจ

ความกลัวว่าจะทำให้พ่อแม่ผิดหวัง จะทำให้ลูกเซื่องซึม ขาดแรงบันดาลใจ และไม่กล้าที่จะลองทำอะไรใหม่ๆ เพราะรู้สึกไม่มั่นใจในตัวเองและกลัวว่าจะทำได้ไม่ดี นอกจากนั้น ความเครียดจากอาจทำให้เกิดอาการทางร่างกาย เช่น ปวดท้อง หรือปวดหัวทุกครั้งที่ต้องออกไปทำกิจกรรมใหม่ๆ
4. อารมณ์ไม่ดี หงุดหงิดง่าย

ความเครียดจากการถูกกดดันจะทำให้ลูกเปลี่ยนจากเด็กที่เคยสดใสร่าเริงให้เป็นคนอารมณ์ไม่ดีและหงุดหงิดง่าย ไม่ชอบรับฟังคำวิจารณ์ ไม่พอใจที่ถูกตำหนิ และไม่อยากพัฒนาตัวเอง เพราะคิดว่าจะไม่สามารถทำให้ดีจนเป็นที่พอใจของทุกคนได้
พ่อแม่ควรทำอย่างไรเพื่อไม่ให้ลูกรู้สึกถูกกดดันมากเกินไป
เมื่ออยากให้ลูกพัฒนาตัวเอง สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำก็คือการส่งเสริมให้ลูกมีความพยายามและความตั้งใจ โดยเน้นที่การให้คุณค่าและความสำคัญกับกระบวนการ มากกว่าผลลัพธ์
เปิดโอกาสให้ลูกได้เล่าเรื่องราวของตัวเอง เช่น พูดคุยเกี่ยวกับกีฬาที่ชอบ ผลการเรียน งานที่ได้รับมอบหมาย โดยคุณพ่อคุณแม่สามารถชื่นชมและให้กำลังใจลูกได้โดยไม่เอาความต้องการของตัวเองไปตัดสิน ลูกก็จะรู้สึกผ่อนคลายจากความกดดันลงได้
COMMENTS ARE OFF THIS POST