การ ลดน้ำหนักหลังคลอด ของคุณแม่มือใหม่ไม่ใช่เรื่องง่าย เมื่อคุณต้องใช้เวลาทั้งหมดไปกับการดูแลลูก รู้ก็รู้ว่าต้องพยายามดูแลตัวเอง อยากสุขภาพดี และอยากให้น้ำหนักตัวลดกลับไปเท่าตอนก่อนตั้งท้อง อย่าว่าแต่ออกกำลังกาย รู้ๆ กันอยู่ว่าแค่เวลานอนยังไม่ค่อยมี แล้วคุณแม่จะทำยังไงดี…
ลองมาดู 6 เทคนิคดีๆ ลดน้ำหนักหลังคลอด ที่จะช่วยให้คุณแม่มือใหม่ เลี้ยงลูกไปด้วยควบคุมน้ำหนักตัวเองไปด้วยได้ แล้วเราจะได้คุณแม่มือใหม่ที่สวยใสหุ่นปังคนเดิมกลับมา
1. ให้ลูกกินนมแม่
ประสบการณ์ตรงจากคุณแม่ที่ให้นมลูกหลายคนยืนยันว่า การให้ลูกกินนมแม่นี่แหละช่วยเผาผลาญพลังงานคุณแม่ได้ดีนัก เพราะกระบวนการดึงไขมันในร่างกายไปสร้างเป็นน้ำนมต้องใช้พลังงาน 500-800 กิโลแคลอรีต่อวัน ดังนั้นการให้ลูกกินนมแม่ต่อเนื่องอย่างน้อย 4-5 เดือน ก็จะช่วยไขมันส่วนเกินบริเวณสะโพก ต้นแขน ต้นขาและช่วย ลดน้ำหนักหลังคลอด ของตัวคุณแม่คืนสู่สภาพปกติ
2. เน้นรับประทานอาหารดีมีประโยชน์ต่อร่างกาย
หากคุณแม่ยังวุ่นวายอยู่กับการเลี้ยงลูกจนไม่มีเวลาไปออกกำลังกาย การรับประทานอาหารที่ดี ช่วยทำให้น้ำหนักลดลงได้ คุณแม่ควรเน้นรับประทานโปรตีนดี แคลเซียม วิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็น เช่น นมรสจืดไขมันต่ำ นมถั่วเหลืองรสจืด โยเกิร์ตรสธรรมชาติ ปลานึ่ง หรือเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน
คุณแม่ไม่ควรอดอาหาร และไม่จำเป็นต้องงดแป้งงดข้าว แต่ใช้วิธีเปลี่ยนมากินแป้งที่เป็นคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อน เช่น แป้งโฮลวีต ข้าวกล้อง ข้าวซ้อมมือ เพราะอาหารเหล่านี้ต้องใช้เวลาย่อยนาน ทำให้คุณแม่รู้สึกไม่หิวบ่อยและยังอิ่มนาน
เลือกกินผักผลไม้ที่รสชาติไม่หวานจัดให้ได้อย่างน้อยวันละ 5 กำมือ เพื่อให้ร่างกายได้รับเส้นใยอาหารที่เพียงพอ
3. งดรับประทานอาหารที่ให้พลังงาน แต่ไม่ค่อยมีประโยชน์ต่อร่างกาย
สิ่งที่คุณแม่ควรงดคืออาหารกลุ่ม Empty calories คือให้ความหวาน ให้พลังงาน แต่ไม่มีสารอาหารที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย เช่น น้ำหวาน ชานมไข่มุก น้ำอัดลม ขนมหวาน ขนมขบเคี้ยว
4. ดื่มน้ำเปล่ามากๆ
ให้คุณแม่ควรมีน้ำดื่มติดตัวตลอดเวลา การดื่มน้ำจะช่วยเร่งการเผาผลาญของร่างกาย และการดื่มน้ำตามมาตรฐาน 8-12 แก้วอาจจะไม่เพียงพอสำหรับร่างกายคุณแม่บางคน วิธีสังเกตง่ายๆ คือหากปัสสาวะยังเป็นสีเหลืองเข้ม หมายความว่าคุณแม่ยังกินน้ำในปริมาณที่ไม่เพียงพอ
5. มีโอกาสนอนให้รีบนอน
การพักผ่อนไม่เพียงพอ มีส่วนทำให้คุณแม่รู้สึกหิวและอยากกินขนมโดยเฉพาะช่วงกลางคืน ร่างกายที่ขาดการพักผ่อนก็จะเผาผลาญได้ไม่ดี ทั้งหมดไม่ดีต่อการพยายามลดน้ำหนักของคุณแม่เอาซะเลย ดังนั้นคุณแม่ควรพยายามหาโอกาสนอนหลับพักผ่อนเท่าที่จะทำได้
6. ไม่เครียด
คุณแม่มือใหม่ต้องเผชิญกับการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมนอย่างรวดเร็ว ทำให้เกิดความวิตกกังวลและความเครียดสะสม ซึ่งอาการมักจะดีขึ้นเมื่อได้กินของหวานหรือขนมอร่อยๆ แต่สุดท้ายน้ำหนักก็เป็นเรื่องสำคัญและเซนซิทีฟกับผู้หญิงอยู่ดี คุณแม่หลายคนจึงต้องต่อสู้กับความเครียด อยากกินของหวาน และอยากลดน้ำหนักไปพร้อมๆ กัน
แต่ทางออกที่ดีที่สุดก็คือ คุณแม่ไม่ควรกดดันหรือพยายามที่จะลดน้ำหนักมากเกินไป เพราะจะทำให้เครียดมากขึ้น และความเครียดก็จะทำให้ร่างกายไม่ผลิตน้ำนม แล้วความหวังที่จะได้เผาผลาญพลังงานจากการให้ลูกกินนมแม่ ก็จะยิ่งลดลงไปอีก
FYI: ช่วงตั้งครรภ์คุณแม่จะมีน้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นประมาณ 11.5-16 กิโลกรัม และลดลงประมาณ 5 กิโลกรัมหลังคลอด หลังจากนั้นถ้าได้รับการดูแลร่างกายและเลือกรับประทานให้ดี น้ำหนักก็จะลดลงอย่างต่อเนื่อง ก่อนจะเข้าสู่ภาวะน้ำหนักตัวก่อนตั้งครรภ์ ภายในเวลา 6-12 เดือน
COMMENTS ARE OFF THIS POST