เด็กเซนสิทีฟหรือเด็กที่มีอารมณ์อ่อนไหวง่าย คือเด็กที่มีระบบประสาทสัมผัสทั้งห้าตอบสนองไวกว่าเด็กทั่วไป การเปลี่ยนแปลงรอบตัวเพียงเล็กน้อย ก็เป็นแรงกระตุ้นให้เด็กๆ คิดมากและเกิดความเครียด จนทำให้คุณพ่อคุณแม่เข้าใจว่าลูกเป็นเด็กขี้กลัว ขี้อาย หรือสมาธิสั้น
แต่หากทำความเข้าใจจะพบว่า แท้จริงแล้วเด็กอ่อนไหวคือเด็กที่มีจินตนาการ ความคิดสร้างสรรค์ แรงบันดาลใจ และความเอื้ออาทร ไม่ใช่เด็กอ่อนแอ แต่เป็นคนละเอียดอ่อน เด็กเหล่านี้ เมื่อฟังนิทาน ดูละคร ฟังเพลง หรือฟังคำพูดที่ไม่เข้าหู จะรู้สึกเข้าถึงและเข้าใจมากกว่าเด็กทั่วไป
ลักษณะนิสัยของเด็กอารมณ์อ่อนไหวง่าย มีความเสียสละ มีจิตใจดี และปิดบังความรู้สึกของตัวเองเพื่อให้คนรอบข้างมีความสุข รวมถึงระมัดระวังการกระทำหรือคำพูดในการทำให้คนอื่นไม่พอใจหรือไม่สบายใจ
ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จำเป็นต้องเลี้ยงลูกที่มีอารมณ์อ่อนไหวง่ายด้วยความเข้าใจ เข้าใจพฤติกรรม การแสดงออก รวมไปถึงชื่นชมพฤติกรรมที่ดี เพื่อไม่ให้ลูกเติบโตขึ้นมาเป็นเด็กขี้อาย วิตกกังวลง่าย หรือโรคซึมเศร้า
1. สื่อสารให้ลูกเข้าใจว่าคุณพ่อคุณแม่เข้าใจและเห็นใจกับอารมณ์ของลูก
ก่อนอื่นคุณพ่อคุณแม่ต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ลูกเองก็อาจเป็นทุกข์ที่ต้องรู้สึกอะไรง่ายดายและมากมายกว่าคนอื่น โดยส่วนใหญ่มักเป็นความรู้สึกในทางลบ เช่น น้อยใจ เสียใจ โกรธ เศร้า คุณพ่อคุณแม่จึงควรทำความเข้าใจว่าลูกไม่ได้อยากเป็นอย่างนี้ เพียงแต่ลูกไม่สามารถจัดการกับความรู้สึกหรือหาทางออกจากความรู้สึกนี้ได้
หลังจากทำความเข้าใจแล้ว เดินเข้าไปหาลูก ใช้น้ำเสียงที่เข้าอกเข้าใจ เช่น “แม่รู้หนูเสียใจที่แม่ดุ หนูร้องไห้ได้ แม่จะอยู่ใกล้ๆ หนูพร้อมจะคุยเมื่อไรก็หยุดร้อง แล้วเรามาคุยกัน” การพูดแบบนี้ทำให้ลูกหยุดร้องไห้และเปิดใจคุยมากขึ้น
2. ระมัดระวังคำพูดและการกระทำ
เด็กกลุ่มนี้มีความรู้สึกไวและตีความได้ไกลเกินกว่าที่คุณจะเข้าใจ ดังนั้นคำพูด และการกระทำที่ออกแนวประชดประชัน ตำหนิ ไม่พอใจ เปรียบเปรย หรือความไม่ยุติธรรม ก็อาจส่งผลกระทบต่อจิตใจเด็กกลุ่มนี้ได้แรงกว่าที่คุณจะคาดถึง
คำพูดที่ควรหลีกเลี่ยงคือ “ร้องไห้ทำไม เรื่องนิดเดียวเอง” “เป็นเด็กขี้แยแบบนี้อีกแล้ว ไม่รู้จักโต” “เอาแต่ร้องไห้แบบนี้ ก็ต้องโดนแบบนี้แหละ” และ “ทำไมขี้แยแบบนี้ ทำไมใจเสาะแบบนี้”
3. อย่าลงโทษลูกด้วยการทิ้งให้อยู่คนเดียว
การลงโทษด้วยการทิ้งให้ลูกอยู่คนเดียว ยิ่งทำให้ลูกจำและสะสมความไม่พอใจมากขึ้น นอกจากนี้เมื่อลูกมีพฤติกรรมน่ารัก คุณพ่อคุณแม่ควรแสดงการรับรู้ถึงสิ่งที่ลูกทำ เช่น การกอด การหอม การขอบคุณ ชื่นชมอย่างพอดี ทำให้ลูกสัมผัสได้ถึงความใส่ใจและได้ใจจากเด็กกลุ่มนี้ไปเต็มๆ สังเกตได้จากมีอาการน้อยใจและงอนคุณพ่อคุณแม่ลดน้อยลง
4. ให้เวลาลูกปรับตัว
เด็กอารมณ์อ่อนไหวง่ายมักต้องการมีโลกส่วนตัว ชอบเล่นคนเดียว และรักอิสระ ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ช่วยให้ลูกปรับตัวกับสิ่งแวดล้อมรอบๆ ตัวได้ ยกตัวอย่างเช่น พาลูกไปสัมผัสธรรมชาติ ร้องเพลง วาดรูป หรือทำกิจกรรมที่ลูกชอบ
นอกจากนี้คุณพ่อคุณแม่ควรเล่นกับลูกบ่อยๆ ช่วยให้ลูกมีความรู้สึกมั่นคง เชื่อมั่นในตนเอง และจัดการกับอุปสรรคได้ดี รวมถึงสอนให้ลูกพูดความรู้สึก เช่น “หนูเจ็บ” หรือ “หนูไม่ชอบ” เพื่อระบายความรู้สึกและร้องไห้ลดลง
5. สร้างความภูมิใจและความสุขให้กับลูก
คุณพ่อคุณแม่ควรช่วยลูกจัดการกับอารมณ์ เช่น สร้างความภาคภูมิใจ ลดความรู้สึกอับอาย รวมไปถึงสอนให้ลูกรู้วิธีพูดคุยถึงความอ่อนไหว และปลดปล่อยอารมณ์ด้วยวิธีการที่เหมาะสม
COMMENTS ARE OFF THIS POST