คุณพ่อคุณแม่เคยแพ้สายตาเว้าวอนของลูกน้อย เมื่อเห็นสัตว์เลี้ยงน่ารักๆ อย่างสุนัข แมว หรือกระต่ายกันบ้างไหมคะ ใจหนึ่งก็เอ็นดูที่ ลูกอยากเลี้ยงสัตว์ เพราะนั่นแสดงถึงการที่ลูกมีจิตใจอ่อนโยน รู้จักรักและเมตตาสัตว์ แต่อีกใจหนึ่งก็เป็นห่วงว่าการเลี้ยงสัตว์จะส่งผลกับสุขภาพและพัฒนาการของลูกได้
Australian Children’s Education and Care Quality Authority (ACECQA) สถาบันเพื่อการศึกษาและการส่งเสริมคุณภาพชีวิตเด็ก ประเทศออสเตรเลีย เผยว่า การเลี้ยงสัตว์ช่วยปลูกฝังอุปนิสัยความเห็นอกเห็นใจ พัฒนาทักษะการอยู่ร่วมกับผู้อื่น และเข้าใจธรรมชาติของสิ่งต่างๆ รอบตัว
สำหรับคุณพ่อคุณแม่ที่ ลูกอยากเลี้ยงสัตว์ แต่ตัวเองกำลังลังเล หรืออยู่ระหว่างการตัดสินใจว่าจะยอมให้ลูกมีสัตว์เลี้ยงดีหรือไม่ M.O.M ขอเสนอ 6 ข้อดีของการให้ลูกเลี้ยงสัตว์ เพื่อเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยในการพิจารณาของคุณพ่อคุณแม่ค่ะ
1. การเลี้ยงสัตว์ช่วยปลูกฝังความรับผิดชอบ
การปล่อยให้ลูกดูแลสัตว์เลี้ยงตามลำพัง อาจเป็นความรับผิดชอบที่ใหญ่เกินไปสำหรับเด็กเล็กหรือเด็กก่อนวัยเรียน คุณพ่อคุณแม่จึงต้องมีส่วนร่วมในการดูแลและค่อยๆ มอบหมายหน้าที่ให้ลูกรับผิดชอบทีละน้อย เช่น มอบหมายหน้าที่ให้อาหาร คอยเติมน้ำในชามสัตว์เลี้ยงทุกเช้า หรือพาสัตว์เลี้ยงไปเดินเล่นนอกบ้านตอนเย็นพร้อมกับคุณพ่อคุณแม่
นอกจากจะช่วยปลูกฝังความรับผิดชอบให้ลูกแล้ว ยังทำให้ลูกเข้าใจอีกด้วยว่าการเลี้ยงสัตว์ไม่ใช่แค่การกอด หรือการเล่นกับมันเท่านั้น แต่จะต้องดูแลเอาใจใส่และรับผิดชอบชีวิตความเป็นอยู่ของสัตว์เลี้ยงด้วย
2. พัฒนาทักษะการสื่อสารของลูก
จากงานวิจัยพบว่า สัตว์เลี้ยงสามารถช่วยพัฒนาทักษะการสื่อสารของเด็กเล็กได้ แม้ว่าจะไม่มีการสื่อสารกลับมาเป็นคำพูด แต่เด็กกลับรู้สึกมั่นใจและไม่เคอะเขิน เมื่อพูดคุยหรืออ่านออกเสียงให้สัตว์เลี้ยงฟัง นอกจากนี้สัตว์เลี้ยงยังช่วยกระตุ้นให้ลูกวัยหัดพูดพยายามที่จะสื่อสารออกมาได้เร็วขึ้นอีกด้วย
3. เข้าใจวัฏจักรของชีวิต
โดยทั่วไปสัตว์เลี้ยงจะมีช่วงอายุสั้นกว่ามนุษย์ ดังนั้นลูกจะมีโอกาสได้สังเกต สัมผัส และเรียนรู้วัฎชีวิตของสัตว์เลี้ยงตั้งแต่เล็กจนโต ทำให้ลูกเข้าใจถึงธรรมชาติและกระบวนการเกิด แก่ เจ็บ ตายของสิ่งมีชีวิต
แม้ในช่วงแรกลูกอาจร้องไห้เสียใจกับการจากไปของสัตว์เลี้ยง คุณพ่อคุณแม่ควรให้เวลาลูกเสียใจ คอยปลอบใจ และอธิบายให้ลูกเข้าใจกับสิ่งที่เกิดขึ้น เมื่อผ่านไปช่วงหนึ่งลูกจะเข้าใจและทำใจยอมรับได้ในที่สุด
4. สร้างความมั่นคงทางอารมณ์ ไม่กลายเป็นเด็กเกเร
ปัจจัยหนึ่งที่อาจทำให้ลูกกลายเป็นเด็กเกเรได้ คือการไม่มีเซฟโซนหรือเพื่อนซี้คอยรับฟังความรู้สึกในใจ บางครั้งลูกอาจเผชิญกับอารมณ์เชิงลบ เช่น ทะเลาะกับเพื่อนที่โรงเรียน เสียใจจากการถูกคุณพ่อคุณแม่ดุ หรือไม่พอใจกับอะไรบางอย่าง แล้วถ่ายทอดอารมณ์และความรู้สึกไม่ดีเหล่านั้นไปยังเด็กคนอื่นๆ ที่ลูกมองว่าอ่อนแอหรือด้อยกว่า ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นของการเป็นเด็กเกเร
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าบอกเรื่องลูกก็ไม่กล้าพูดคุยกับคุณพ่อคุณแม่ตรงๆ แต่การมีสัตว์เลี้ยงทำให้ลูกรู้สึกเหมือนมีเพื่อนซี้หรือเซฟโซนที่สามารถเล่าเรื่องราว หรือระบายความกลัว ความโกรธที่มีให้ฟังได้ โดยไม่รู้สึกถึงการถูกตัดสิน
5. ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้ลูก
Sabrina Felson ผู้เชี่ยวชาญด้านอายุรศาสตร์ประจำกระทรวงการแพทย์ทหารผ่านศึกประเทศสหรัฐอเมริกา (Veterans Health Administration) เผยว่า เด็กที่เติบโตในบ้านที่มีสัตว์เลี้ยงมีอัตราการเกิดโรคภูมิแพ้ (Allergies ) และโรคหืด (Asthma) น้อยกว่าเด็กที่บ้านไม่เลี้ยงสัตว์ นอกจากนี้ยังมีงานวิจัย เผยว่า เด็กอ่อน หรือทารกอายุ 0-6 เดือนที่เติบโตในบ้านที่เลี้ยงสุนัขหรือแมวมีอาการหวัดและหูอักเสบน้อยกว่าทารกที่อาศัยอยู่ในบ้านที่ไม่มีสัตว์เลี้ยง
หวังว่าข้อมูลข้างต้นจะเป็นประโยชน์ และสามารถทำให้คุณพ่อคุณแม่ใจอ่อนยอมให้ลูกลองเลี้ยงสัตว์ได้นะคะ
COMMENTS ARE OFF THIS POST