READING

NEWS UPDATE: จำนวนผู้ป่วยจากการถูกยุงกัดเพิ่มขึ้นก...

NEWS UPDATE: จำนวนผู้ป่วยจากการถูกยุงกัดเพิ่มขึ้นกว่าสามเท่า

จำนวนผู้ป่วยโรคติดเชื้อจากการถูกยุง เห็บ และหมัดกัด เพิ่มขึ้นกว่าสามเท่าในสหรัฐอเมริกาตั้งแต่ปี 2004 และมีการค้นพบอย่างน้อย 9 โรคใหม่ที่เกิดจากพวกมัน และแม้จะอยู่ในเมืองไทย แต่สถานการณ์ก็อาจไม่ต่างกัน มาเฝ้าระวังและป้องกันภัยร้ายจากพวกมัน ที่อาจนำมาสู่สวนหลังบ้านขณะที่ลูกๆ กำลังนั่งเล่นอยู่กันเถอะ

 

เมื่อยุง เห็บ และหมัดไม่ได้พบแค่ตามป่าหรือภูเขาอีกต่อไป แต่กำลังลามมาที่พื้นสนามหญ้าหน้าบ้านมากขึ้นเรื่อยๆ โดยเฉพาะในฤดูฝน ที่มาพร้อมกับอุณหภูมิโลกที่สูงขึ้น จึงทำให้พวกมันแพร่พันธุ์ได้ง่ายขึ้น และมีอีกหลายโรคที่ยังหาข้อสรุปของที่มาไม่ได้ ซึ่งถูกสันนิษฐานว่าอาจพัฒนามาจากไวรัสในเห็บหมัด (ข้อมูลจากศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคสหรัฐอเมริกา)

 

เชื้อไวรัสจากสัตว์เหล่านี้จึงอาจไม่ได้เป็นเพียงพาหะนำโรคในสัตว์เลี้ยง หรือเป็นเพียงโรคภัยไข้เจ็บที่เรารู้จักกันทั่วไปในคน อย่างไข้เลือดออกอีกต่อไป เพราะเมื่อปี 2017 ที่ผ่านมา เพิ่งมีหญิงชาวญี่ปุ่นวัย 51 ปี เสียชีวิตด้วยไวรัส SFTS ที่มาจากหมัดแมวแล้ว

 

เนื่องจากยังไม่มียารักษาโรคตัวใดสามารถรักษาโรคภัยจากเห็บหมัดในคนได้ ดังนั้น ก่อนที่มันจะเข้าใกล้ตัวเรามากกว่านี้ มาหาวิธีป้องกันที่ดีที่สุด เพื่อรับมือและสร้างความปลอดภัยสำหรับคุณและลูกน้อยกันดีกว่า

 

– ใส่เสื้อผ้าให้มิดชิด แม้อากาศจะร้อน

โดโรที เลแลนด์—ผู้อำนวยการด้านการสื่อสารองค์กรสนับสนุนผู้ป่วยแห่งหนึ่งแนะนำว่า หากคุณกำลังเดินป่าในประเทศที่มีเห็บลมหรือหมัด ให้ใส่เสื้อแขนยาว กางเกงขายาว สอดปลายขากางเกงไว้ในรองเท้าและถุงเท้า เพื่อปิดช่องว่างจากชายเสื้อ

 

สวมหมวกและผ้าพันคอที่ปกปิดผิวให้มากยิ่งขึ้น และสำหรับคนที่ผมยาว ควรรวบหรือมัดเก็บให้เรียบร้อย เลือกใช้เสื้อผ้าที่ได้อาบด้วยยาป้องกันแมลงเพอร์มีทริน (Permethrin) ซึ่งจะยับยั้งทั้งเห็บและยุง และฉีดพ่นรองเท้าด้วยเพอร์มีทริน เพราะปกติแล้วพวกมันจะอยู่บนพื้นและไต่จากพื้นสู่ผิวของคุณ

 

เห็บหมัดไม่กระโดดและบินไม่ได้ แต่มักพบมากบริเวณขอนไม้ผุ กาบเฟิร์น หรือหญ้าแห้งที่เราเดินผ่านแล้วมันติดมาได้ เพราะฉะนั้นระวังอย่าเดินเข้าใกล้บริเวณเหล่านี้ หรือนั่งยองๆ กับพื้น

 

และอย่าลืมเช็กทำความสะอาดร่างกายทุกครั้งหลังกลับจากการเดินป่า เพราะมันอาจติดมากับเสื้อผ้า หรือเส้นผมของคุณ เพื่อสำรวจและกำจัดได้ทันเวลาก่อนที่มันจะมาแพร่พันธุ์ในบ้าน

 

– ใช้สเปรย์กันแมลงในส่วนที่ร่างกายไม่มีอะไรปกปิด

ศูนย์ควบคุมและป้องกันโรค และหน่วยงานคุ้มครองสิ่งแวดล้อม แนะนำให้ใช้ยากันยุงซึ่งมีส่วนประกอบสำคัญจากสารต่างๆ ดังนี้ DEET, Picaridin, IR3535, น้ำมันจากเลมอนยูคาลิปตัส (OLE) หรือ Para-Menthane Diol (PMD), หรือ 2-Undecanone

 

และเฉพาะ DEET, Picaridin และ IR3535 เท่านั้นที่เป็นสารที่มีประสิทธิภาพในการต่อต้านเห็บ และต้องมีความเข้มข้นสูงมากกว่าการใช้กับยุง ดังนั้นควรอ่านฉลากอย่างระมัดระวังและใช้ตามความจำเป็น (ดูรายชื่อสเปรย์กันแมลงที่เชื่อถือได้จาก The Wire Cutter)

 

โดยเด็กอายุต่ำกว่า 2 เดือนห้ามใช้สเปรย์กันแมลง รวมถึงผลิตภัณฑ์ใดก็ตามที่มีส่วนผสมของ OLE และเด็กอายุต่ำกว่า 3 ขวบห้ามใช้ PMD และสำหรับเด็กทุกคน ให้หลีกเลี่ยงการฉีดสเปรย์ลงบนมือ หรือใกล้ตาและปาก และถ้าคุณใช้ครีมกันแดดด้วย ให้ทาครีมกันแดดก่อน แล้วจึงตามด้วยสเปรย์กันแมลงทีหลัง

 

– อุดรอยรั่วและพื้นที่เสี่ยงบนสนามหญ้าในบ้านเรา

ยุงผสมพันธุ์ในน้ำจืดและวางไข่ได้ แม้ในถ้วยที่มีน้ำเพียงเล็กน้อย เพราะฉะนั้นสำรวจสนามหญ้า ดาดฟ้า กระถางดอกไม้ ไปจนถึงชามน้ำของสัตว์เลี้ยง ก็ต้องเปลี่ยนน้ำอย่างสม่ำเสมอ

 

และพยายามอุดรอยแยกของมุ้งลวด หรือรอยต่อของบานประตูหน้าต่างให้เรียบร้อย เพื่อป้องกันยุง หมั่นดูแลปกป้องสวนของตัวเอง เพื่อให้ลานบ้านปราศจากเห็บ โดยการตัดให้สั้น และพยายามตัดเล็มต้นไม้ในสวนเสมอ ไม่ให้มีใบไม้ระเกะระกะตามทางเดิน

 

และอีกวิธีป้องกันตัวเองจากยุงร้ายที่ได้รับการรับรองโดย American Mosquito Control Association ที่ง่ายจนน่าแปลกใจก็คือ การตั้งพัดลมบนโต๊ะใกล้กับพื้นที่นั่งเล่นของคุณ เพราะกลิ่นมนุษย์ที่กระจายไปกับลมจะไล่ยุงตัวเมียจากเรา

 

และหากคุณกำลังตั้งแคมป์กลางแจ้ง หรืออยู่ในอาคารที่ไม่มีหน้าต่าง ให้ใช้มุ้งกันยุงคลุมรอบบริเวณที่นอน

 

อ้างอิง
BBC
Camping Inter
NY Times: Ticks and Mosquitoes Diseases
NY Times: Mosquitoes, Ticks and Lyme Disease ProtectionNews Mthai
The Wire Cutter

Avatar

สาวยุค 90's ลูกครึ่งจีนฮ่องกง feat. เชียงใหม่ ที่พูดฮ่องกงไม่ได้ อู้กำเมืองบ่จ้าง ติดนิยาย รักการจดบันทึกและการกินเหนือทุกสิ่งอย่าง มีลูกสาวเป็นหมาอ้วนสีเหลืองอ่อน

RELATED POST