การมีลูกสักคนย่อมมาพร้อมกับความรับผิดชอบต่างๆ ที่มากมายจนเรียกได้ว่ามันเปลี่ยนชีวิตคุณพ่อคุณแม่แต่ละคนไปได้เลย

บทความ ‘Just like Burnout at Work, It’s Possible to Burn Out on Parenting’ จาก New York Magazine พูดถึงความเหน็ดเหนื่อยจากการเลี้ยงดูลูกน้อย ที่ทำให้พ่อแม่หลายคนต้องตกอยู่ในภาวะหมดไฟ (Burnout) โดยผลสำรวจจากนักวิจัยในประเทศเบลเยียมพบว่า นอกจากคนเราจะสามารถหมดไฟจากการทำงานแล้ว การเป็นพ่อแม่ก็สามารถหมดไฟได้เช่นกัน

ผลวิจัยพบว่าในพ่อแม่ 2,000 คน มีคุณแม่เกือบ 13% และคุณพ่อ 11.6% เคยเกิดภาวะที่นักวิจัยเรียกว่า ‘high burnout’ หมายความว่า พวกเขารู้สึกหมดแรง และรู้สึกว่าตัวเองมีความสามารถน้อยลง และมักจะเกิดอาการอย่างนี้ขึ้นอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง ซึ่งคล้ายกับการหมดไฟในการทำงานของหนุ่มสาวทั่วไป

แรงกดดันที่จะเป็น ‘ซูเปอร์ฮีโร่ในทุกสิ่งทุกอย่าง’

ถ้าคุณเคยฝันอยากโดนลักพาตัวไปที่ไหนสักพัก เพื่อจะได้เว้นจากการเลี้ยงลูก ทำงานบ้าน ทำอาหาร และสารพัดสิ่งที่เพิ่มขึ้นมาพร้อมกับการมีลูก เหมือนกับที่ วานิก้า นิโกโลวา นักวิเคราะห์ข้อมูลอาวุโสของ Power to Fly และคุณแม่ของลูกชายวัยสองขวบครึ่งและหกขวบรู้สึก นั่นอาจแปลว่า… คุณกำลังรู้สึกหมดไฟในการเป็นพ่อแม่

แนวความคิดยุคใหม่ที่ว่าคุณจะต้องเป็น ‘ซูเปอร์ฮีโร่ในทุกสิ่งทุกอย่าง’ ให้ได้นั้น เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้เกิดความรู้สึกหมดไฟขึ้นมา

“คุณต้องเก่งในการทำงาน คุณต้องเก่งในด้านความสัมพันธ์ คุณต้องเก่งในสังคม คุณต้องเป็นพ่อแม่ที่ดี ให้ลูกกินอาหารออร์แกนิกเพื่อกระตุ้นสมองของพวกเขาตั้งแต่อยู่ในท้อง บาลานซ์ระหว่างการปกป้องพวกเขาและให้เขาเผชิญโลกแห่งความเป็นจริง ส่งไปเรียนกีฬา ศิลปะ และนู่นนี่ต่อไปเรื่อยๆ” ความรู้สึกว่าตัวเองจะต้องทำสิ่งเหล่านี้อยู่ตลอดเวลามันเหมือนเครื่องยนต์มากกว่าคนซะอีก

หลุยส์ แซตเทลอร์ คุณแม่ลูกสองผู้ร่วมก่อตั้ง 411 Voices—กลุ่มผู้เชี่ยวชาญด้านประสบการณ์สื่อสังคมออนไลน์กล่าวว่า ความจำเป็นที่จะต้องแข่งขันทำให้ทุกวันนี้ พ่อแม่เกิดความรู้สึกหมดไฟ เพราะบางครั้งเรารู้สึกไม่มีความสุขที่จะอยู่ในระดับแค่ค่าเฉลี่ย

“คุณแม่คิดว่าตัวเองจะต้องเกินร้อยในการทำทุกอย่าง ซึ่งจริงๆ แล้วเราควรอนุญาตให้ตัวเองได้เป็นเพียงค่าเฉลี่ยในบางส่วนของชีวิตบ้างก็ได้”

การเลี้ยงดูในยุคสื่อสังคมออนไลน์

“การโพสต์โอ้อวดบนโซเชียลมีเดียกลายเป็นเครื่องวัดความสำเร็จ หรือความล้มเหลวในฐานะพ่อแม่” เชลบี้ ไรด์เอาต์ ผู้ก่อตั้ง Bright Signs Learning บริษัทการศึกษาสำหรับเด็กที่ใช้ภาษามือเพื่อสอนแนวคิดก่อนการอ่านหนังสือ ให้ความเห็นว่าสื่อสังคมออนไลน์ไม่ได้มีไว้เพื่อช่วยพ่อแม่อย่างแน่นอน

มันทำให้ผู้ปกครองพยายามที่จะทำตามมาตรฐานความสมบูรณ์แบบที่พวกเขาเห็น ซึ่งภาพในสื่อสังคมออนไลน์เหล่านั้น อาจจะไม่ใช่ภาพที่แท้จริงของทุกครอบครัวก็ได้

การให้เวลาตัวเอง

นิกกิ ลิตเทิล คุณแม่ของลูกแฝดชายวัยสี่ขวบมองว่า การให้เวลาตัวเองเป็นเรื่องสำคัญ เธอกับสามีได้ตกลงกันว่า… ทั้งคู่จะมีเวลาส่วนตัวเพื่อไปมีกิจกรรมของตัวเองบ้าง เป็นสาเหตุให้ทั้งเธอและสามีสลับกันเลี้ยงลูกในบางครั้ง

แต่สิ่งที่ทำให้เธอเจ็บปวดก็คือ เมื่อมีแม่บางคนพยายามบอกว่าพวกเธอยอมทำทุกอย่างเพื่อลูก ในขณะที่สามีของพวกเธอยังมีเวลาส่วนตัวให้สนุกสนานอยู่

“มันไม่ใช่สัญลักษณ์ของความทุ่มเท ที่จะบอกว่าคุณเสียสละทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อครอบครัว และทำเพื่อตัวเองเป็นคนสุดท้าย การดูแลตัวเองและการให้เวลาตัวเองต่างหาก ที่เป็นเรื่องสำคัญที่จะไม่ทำให้เราหมดไฟในการเป็นพ่อแม่”

นีล ดี บราวน์ นักบำบัดครอบครัวได้ให้ 6 ขั้นตอนง่ายๆ ที่จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่รอดพ้นจากภาวะหมดไฟ ดังนี้

ขั้นที่ 1 หยุดความพยายามที่จะเป็นพ่อแม่ที่สมบูรณ์แบบ หรือทำให้ลูกเป็นเด็กที่สมบูรณ์แบบ

เด็กๆ ทุกคนต้องการให้คุณเป็นพ่อแม่ที่ดีพอ ไม่ใช่พ่อแม่ที่ดีที่สุด ลดความคาดหวังที่คุณมีกับตัวเอง

อีกอย่างคือหยุดตั้งเป้าหมายว่าต้องเลี้ยงลูกให้เป็นเด็กที่สมบูรณ์แบบ

ขั้นที่ 2 รู้จักและให้ความสำคัญกับด้านบวก

สนใจในสิ่งที่ลูกๆ ทำได้ดี และเชื่อว่าพวกเขาจะเรียนรู้และเติบโตต่อไป

ขั้นที่ 3 ขอความช่วยเหลือบ้าง

บ่อยครั้งที่คุณพ่อคุณแม่ไม่กล้าขอความช่วยเหลือจากคนรอบข้าง แต่ถ้าลองมองไปรอบตัวแล้วจะพบว่า มีคนที่พร้อมจะช่วยคุณเสมอ เพียงแค่คุณเอ่ยปากเพื่อให้ตัวเองได้หยุดพักบ้าง

นอกจากนี้ อย่ากลัวที่จะขอความช่วยเหลือหรือความร่วมมือจากลูกๆ เพื่อช่วยลดภาระของคุณ และยังเป็นการสอนให้เด็กๆ รู้จักความรับผิดชอบ และการให้ความร่วมมือกับคนอื่น

ขั้นที่ 4 หาความรู้เพิ่ม

เพิ่มทักษะและความรู้ในการเลี้ยงดูลูกด้วยหนังสือการเลี้ยงดูและแหล่งข้อมูล หรืออาจจะเข้าร่วมกลุ่มพ่อแม่ต่างๆ หรือคุยกับที่ปรึกษาและผู้เชี่ยวชาญที่สามารถช่วยได้

แต่ต้องระวังในประเภทของแหล่งข้อมูลการเลี้ยงดูที่คุณพ่อคุณแม่จะเข้าถึงด้วย

ขั้นที่ 5 เปลี่ยนแปลงวิถีชีวิต

เริ่มต้นด้วยการเปลี่ยนแปลงเล็กๆ น้อยๆ เช่น การมีเวลาให้ตัวเอง รวมถึงการเปลี่ยนแปลงอื่นๆ ที่ทำได้ง่าย เช่น การลดใช้เทคโนโลยีลงเพื่อมีเวลาไปทำอย่างอื่นมากขึ้น

ขั้นที่ 6 หยุดรู้สึกผิดต่อตัวเอง

เราไม่สามารถให้สิ่งที่เราไม่มีกับคนอื่นได้ และถ้าเราไม่มีความสุข เราจะไม่สามารถทำให้ลูกๆ มีความสุขได้เช่นกัน

เพราะผู้ใหญ่ก็ต้องการเวลาในแบบของผู้ใหญ่ เราต้องเข้าใจว่าคนเราไม่ใช่เครื่องจักรที่ต้องทำหน้าที่พ่อแม่เท่านั้น แต่เราก็ต้องการความรัก เซ็กซ์ และความสนุกอย่างอื่นด้วย

ดังนั้น การที่คุณพ่อคุณแม่ออกไปเที่ยวหรือพักผ่อนกันตามลำพังสองคน หรือมีเวลาสำหรับตัวเองบ้างก็เป็นสิ่งที่จำเป็นที่คุณจะทำได้ โดยไม่ต้องรู้สึกผิดอะไร

ที่มา
CNN
Smart Parents