เด็กบางคนมีปัญหาด้านการสื่อสารในห้องเรียน บางคนไม่สามารถตีความหมายของสีหน้าและท่าทางของคนอื่นได้ หรือบางคนกลัวการออกไปพูดหน้าชั้นเรียน หากลูกกำลังเผชิญหน้ากับปัญหาเหล่านี้อยู่

คุณพ่อคุณแม่สามารถช่วยให้ลูกมีพัฒนาการด้านการสื่อสารที่ดีขึ้นได้ ผ่านกิจกรรมสนุกๆ ดังนี้

1. กิจกรรมนำเสนอ (Presentation)

สิ่งที่ลูกต้องเจอในห้องเรียนคือการพรีเซนเทชั่น มันอาจจะเป็นเรื่องน่าเบื่อสำหรับลูก แต่คุณพ่อคุณแม่สามารถปรับเปลี่ยนกิจกรรมนั้นให้กลายเป็นเรื่องสนุก ทำให้ลูกเอาชนะความกลัว กล้าแสดงออก กล้าพูดในที่สาธารณะ และพัฒนาทักษะด้านการสื่อสารได้ด้วย

วิธีการเล่น: ให้ลูกเลือกหัวข้อที่ชอบ เช่น หัวข้อไดโนเสาร์ จากนั้นให้ลูกเลือกวิธีการนำเสนอให้คุณพ่อคุณแม่ฟัง ตามที่ลูกต้องการ เช่น มายด์แม็ป (Mind mapping) สาธิตด้วยงานฝีมือ หรือบทบาทสมมติ และให้เวลาลูกนำเสนอ 2-5 นาที วิธีนี้จะช่วยให้ลูกคุ้นเคยกับการพรีเซนเทชั่นมากขึ้น

2. กิจกรรมอะไรอยู่ในภาพ

กิจกรรมนี้พัฒนาทักษะด้านการสื่อสารของลูก และยังเสริมทักษะด้านความคิดอย่างมีเหตุและผล

วิธีการเล่น: กิจกรรมนี้ต้องมีอุปกรณ์สำคัญคือรูปภาพ และให้ลูกอธิบายสิ่งที่เห็นจากภาพ ยกตัวอย่างเช่น สี คน วิว และรายละเอียดต่างๆ ที่ลูกเห็น สำหรับเด็กโต คุณพ่อคุณแม่สามารถถามลูกได้ว่า ‘จากภาพเกิดอะไรขึ้นก่อนหน้านี้’ และ ’หลังจากนี้จะเกิดอะไรต่อไป’

3. กิจกรรมมาแต่งนิทานของตัวเองกันเถอะ

มากกว่าการฟัง สิ่งที่เด็กๆ ชอบคือการเล่าเรื่อง กิจกรรมนี้จะช่วยพัฒนาทักษะด้านการสื่อสาร สร้างความสนุกสนาน และคุณพ่อคุณแม่ยังรู้ความคิดของลูกด้วย

วิธีการเล่น: คุณพ่อคุณแม่เล่านิทาน และให้ลูกคิดตอนจบของนิทานด้วยตัวเอง สำหรับเด็กเล็ก คุณพ่อคุณแม่ให้ตัวเลือกตอนจบของนิทานสองถึงสามข้อ ให้ลูกเลือก และสำหรับเด็กโต ที่มีคลังคำศัพท์มาก คุณพ่อคุณแม่อาจให้แก่นของเนื้อเรื่องหรือใจความสำคัญของเรื่อง และให้ลูกเรียบเรียงเรื่องราวเป็นนิทานในรูปแบบของตัวเอง

4. กิจกรรมทายอารมณ์

กิจกรรมนี้จะช่วยให้ลูกเข้าใจอารมณ์ และเรียกชื่ออารมณ์ต่างๆ ได้ถูกต้อง

วิธีการเล่น: ทำการ์ดขึ้นมาและเขียนชื่ออารมณ์ต่างๆ ลงบนการ์ด เช่น มีความสุข เศร้า โกรธ เบื่อ กลัว ไม่มีความสุข และประหม่า เป็นต้น จากนั้นคว่ำการ์ดทุกใบและให้ลูกเลือก เมื่อเลือกได้แล้วให้ลูกแสดงสีหน้าตามการ์ดที่ได้ โดยห้ามส่งเสียงหรือพูด และให้คุณพ่อคุณแม่ทายว่าลูกกำลังทำสีหน้าอะไรอยู่

5. กิจกรรมทำตามหัวหน้า

เป็นกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับภาษากาย ฝึกให้เด็กๆ มีทักษะในการแสดงออกสีหน้าและท่าทาง โดยมีหัวหน้าเป็นผู้นำและมีลูกน้องเป็นผู้ตาม

วิธีการเล่น: สมาชิกทุกคนยืนเป็นวงกลม จากนั้นเลือกคนที่จะมาเป็นหัวหน้าคนแรก เมื่อหัวหน้าทำท่าทางอะไร ลูกน้องที่เหลือจะต้องทำตาม เช่น ปรบมือ ขย่ำเท้า หรือขยับใบหน้าเพื่อแสดงอารมณ์ต่างๆ เมื่อหัวหน้าต้องการจะเปลี่ยนให้คนอื่นเป็นแทน ให้ขยิบตา ยิ้ม หรือพยักหน้าไปทางคนที่ต้องการให้เป็นหัวหน้าแทน เพื่อเปลี่ยนตัว และลูกน้องทุกคนต้องทำตามหัวหน้าคนใหม่

6. กิจกรรมสายโทรศัพท์

กิจกรรมคลาสสิกในการพัฒนาทักษะด้านการสื่อสารของเด็กๆ เล่นกี่ครั้งก็สร้างความสนุกสนานและเสียงหัวเราะได้เสมอ และเป็นกิจกรรมที่เหมาะกับคนจำนวนมาก เหมาะกับการชวนเพื่อนๆ ของลูกมาเล่นด้วยกัน

วิธีการเล่น: ให้เด็กๆ ยืนเป็นวงกลม จากนั้นกระซิบข้อความให้กับเด็กคนแรก และให้เด็กๆ ส่งข้อความต่อด้วยการกระซิบไปเรื่อยๆ จนถึงเด็กคนสุดท้าย และให้เด็กคนสุดท้ายเฉลยสิ่งที่ได้ยิน ความน่ารักของกิจกรรมนี้คือ ประโยคมักจะผิดเพี้ยนแทบทุกครั้งเมื่อถึงเด็กคนสุดท้าย

7. กิจกรรม 20 คำถาม

กิจกรรมนี้จะช่วยให้ลูกคิด จินตนาการ และสื่อสารอย่างถูกต้อง ผ่านกระบวนการคิดอย่างมีเหตุผล

วิธีการเล่น: ให้ลูกนึกถึงสิ่งที่ต้องการนำมาเป็นโจทย์ เช่น นักร้อง ดารา สถานที่ หรือการ์ตูน จากนั้นให้คุณพ่อและคุณแม่ถามคำถาม 20 ข้อ ให้ลูกตอบได้เพียง ‘ใช่’ หรือ ‘ไม่ใช่’ ในกรณีที่ตอบไม่ถูกลูกจะเป็นผู้ชนะ แต่ถ้าหากคุณพ่อหรือคุณแม่ตอบถูกก็จะได้เป็นคนคิดโจทย์คนต่อไป และให้ลูกเป็นฝ่ายทาย

8. กิจกรรมอะไรเอ่ย

กิจกรรมนี้ฝึกให้ลูกอธิบายลักษณะของสิ่งต่างๆ และพัฒนาทักษะด้านการสื่อสารได้ดี

วิธีการเล่น: ปิดตาคุณพ่อหรือคุณแม่และเลือกวัตถุหนึ่งชิ้น เช่น ผลไม้ ของใช้ หรือวัตถุที่มีความซับซ้อนในการอธิบาย และให้ลูกอธิบายลักษณะที่เห็นกับคนที่ปิดตา โดยห้ามบอกว่าสิ่งที่เห็นคืออะไร

อ้างอิง
Momjunction