กลับมาที่ปัญหาฝุ่นละอองPM 2.5 ที่เรียกได้ว่าอยู่กับเรามาอย่างยาวนาน พอเริ่มอากาศนิ่ง ไม่มีฝนตก ไม่ค่อยมีลมพัด เจ้าวายร้ายก็กลับมาอีกครั้ง ปลิวว่อนในอากาศ ล่องลอยเหมือนกลุ่มหมอกที่คอยหลอกให้เราตายใจ
ฝุ่น PM 2.5 เป็นฝุ่นละอองที่มีขนาดเล็กเพียง 2.5 ไมครอน ถ้าเทียบก็ประมาณ 1 ใน 25 ของเส้นผ่านศูนย์กลางของเส้นผม ด้วยขนาดที่เล็กมากจึงสามารถแทรกซึมเข้าสู่ระบบสำคัญในร่างกายมนุษย์ได้ง่าย โดยเฉพาะกับระบบทางเดินหายใจ
เด็กที่ยังคงมีภูมิคุ้มกันไม่แข็งแรง การสูดดมฝุ่นจึงสามารถก่อโรคต่างๆ ได้ง่าย รวมถึงมีงานวิจัยออกมามากมายว่าฝุ่นจิ๋วนี้ สามารถส่งผลกระทบได้ถึงพัฒนาการในแต่ละด้านของเด็ก ปัญหาเรื่องฝุ่นจึงถือเป็นเรื่องใหญ่ การมีมาตรการรับมือกับปัญหาดังกล่าวจึงเป็นเรื่องจำเป็น
ในครั้งนี้เองเราจึงได้ออกสำรวจถึงมาตรการรับมือฝุ่น PM 2.5 ของโรงเรียนต่างๆ ว่าได้เพิ่มมาตรการหรือมีวิธีปกป้องเด็กๆ จากฝุ่นร้ายนี้อย่างไรบ้าง
1. โรงเรียนราชินีบน
• ให้ความรู้กับนักเรียน รณรงค์ให้นักเรียนใส่หน้ากากอนามัยชนิด N95 เมื่อต้องอยู่ กลางแจ้งหรือบนท้องถนน
• งดกิจกรรมกลางแจ้งในระยะที่มีค่า PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน จนกว่าสถานการณ์จะดีขึ้น และให้นักเรียนทำกิจกรรมในโรงยิมเนเซียมหรือสถานที่อื่นตามความเหมาะสม ทั้งนี้โรงเรียนดำเนินมาตรการตามเกณฑ์ค่าฝุ่นละออง PM 2.5 ที่อ้างอิงจากกรมควบคุมมลพิษ
• เปิดระบบสปริงเกอร์พ่นน้ำตอนช่วงเช้า และช่วงค่ำ เพื่อช่วยชะล้างฝุ่นละออง
• ติดตั้งเครื่องวัดฝุ่นละอองภายในโรงเรียน 3 จุดสำคัญ
• ปลูกต้นไม้ตามแนวรั้วโรงเรียนที่ติดกับถนนสามเสน
• ติดตั้งเครื่องปรับอากาศที่มีเครื่องฟอกอากาศในตัว หรือเพิ่มเครื่องฟอกอากาศ นอกเหนือจากเครื่องปรับอากาศในรุ่นที่ไม่มีเครื่องฟอก ในพื้นที่ที่มีความจำเป็นสำหรับนักเรียน
2. โรงเรียนอนุบาลบ้านหวาน
• โรงเรียนอนุบาลบ้านหวาน โรงเรียนเล็กๆ แสนอบอุ่นย่านพระโขนง มาตรการในการรับมือกับเจ้าฝุ่นจิ๋วตัวร้ายสำหรับเด็กๆ ดังนี้
• ในห้องเรียนทุกห้องจะมีการติดตั้งเครื่องฟอกอากาศเอาไว้ และจะเปิดใช้งานตลอด
• ประชาสัมพันธ์ให้เด็กๆ เปลี่ยนจากการใส่หน้ากากอนามัยเป็นหน้ากากสำหรับกันฝุ่น PM 2.5
• ทุกเช้าคุณครูจะทำการเช็กค่าฝุ่นจากเครื่องวัด PM 2.5 ก่อนแจ้งในไลน์กลุ่มผู้ปกครอง
• หากค่าฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน ตามกรมควบคุมมลพิษ จะงดกิจกรรมกลางแจ้งทุกชนิดและเข้าแถวในห้องเรียน
• ผู้ปกครองที่ขับรถยนต์เพื่อเข้ามาส่งเด็กๆ จะขอความร่วมมือให้ดับเครื่องยนต์เพื่อลดการสร้างมลพิษ
3. โรงเรียนเพลินพัฒนา
ห้องเรียนทุกระดับติดเครื่องปรับอากาศและเครื่องฟอกอากาศ โดยหากพบว่าค่า PM 2.5 เกินมาตรฐาน โรงเรียนจะเปิดแอร์ และเปิดเครื่องฟอกอากาศ โดยจะตั้งเครื่องฟอกไว้ให้ห่างจากหน้าต่างและประตู เพื่อไม่ดึงอากาศปนเปื้อนเข้ามาภายในห้องเรียน
• โรงเรียนขอความร่วมมือจากผู้ปกครองให้นักเรียนนำหน้ากากอนามัยพกติดตัวมาด้วยเสมอ
• มีการติดตั้งเครื่องวัดค่าฝุ่น PM 2.5 ไว้ 3 จุดสำคัญ โดยผู้ปกครองสามารถเช็คดูค่าฝุ่นผ่านแอปพลิเคชัน AirVisual ได้
• มีการใช้ธงเป็นสัญลักษณ์แจ้งเตือนถึงค่าฝุ่นภายในโรงเรียน สีเขียว คือใช้ชีวิตได้ตามปกติ สีส้ม คือ ให้สวมหน้ากากอนามัยกันฝุ่น สีแดง คือ ให้ออกจากพื้นที่
• หากพบค่าฝุ่น PM 2.5 สูงเกินมาตรฐาน ส่วนงานสุขภาวะจะดำเนินการแจ้งเตือนผ่านกลุ่มไลน์เลขาช่วงชั้น เพื่อปฏิบัติตามมาตรการของโรงเรียน
• มีการทำความสะอาดเครื่องฟอกอากาศเตรียมไว้ล่วงหน้าเสมอ
4. RBIS Rasami British International School
• โรงเรียนจะมีการวัดค่าฝุ่นในทุกๆ 1 ชั่วโมง ก่อนส่งเมลไปหาผู้ปกครองเพื่อแจ้งค่าฝุ่นในช่วงเวลานั้นๆ
• หากค่าฝุ่น PM 2.5 เกินค่ามาตรฐาน จะงดการทำกิจกรรมกลางแจ้งทุกชนิด เช่น ยกเลิกการเข้าแถวของนักเรียน
• มีการติดตั้งเครื่องฟอกอากาศภายในห้องเรียน
• รณรงค์ให้เด็กๆ สวมหน้ากากอนามัย N95 เพื่อกันฝุ่น PM 2.5 โดยเฉพาะ
• หากค่าฝุ่น PM 2.5 มากกว่า 150 จะมีการปิดโรงเรียนชั่วคราว
5. โรงเรียนอนุบาลมณีรัตน์
โรงเรียนอนุบาลมณีรัตน์มีมาตรการอ้างอิงจากสาขาวิชาเวชศาสตร์ผู้ป่วยนอก เด็กและวัยรุ่น คณะแพทย์ศาสตร์ มหาวิทยาลัยรามาธิบดี
• หากค่าฝุ่น PM 2.5 อยู่ที่ 38-50 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร จะเริ่มมีการให้สวมหน้ากากอนามัยเมื่อออกไปกลางแจ้ง งดการออกนอกอาคารเป็นเวลานาน และปิดหน้าต่างเมื่ออยู่ในอาคาร
• หากค่าฝุ่น PM 2.5 อยู่ที่ 51-90 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งเริ่มมีผลต่อกระทบต่อสุขภาพจะให้งดการออกกำลังกาย งดการอยู่กลางแจ้ง ปิดหน้าต่าง สวมหน้ากากอนามัย และเปิดเครื่องฟอกอากาศไว้ตลอด
• และหากค่าฝุ่น PM 2.5 มีมากกว่า 91 ไมโครกรัมต่อลูกบาศก์เมตร ซึ่งมีผลกระทบต่อสุขภาพ โรงเรียนจะทำการหยุดเรียนทันที
COMMENTS ARE OFF THIS POST