ความเท่าเทียมทางเพศ กำลังเป็นประเด็นที่ทั่วโลกให้ความสนใจและพยายามผลักดันให้เกิดการรับรู้และยอมรับอย่างทั่วถึง เพราะการตระหนักและให้ความเท่าเทียมกับทุกความแตกต่างและหลากหลายของผู้คนในโลก จะทำให้คนเราเรียนรู้ที่จะความเคารพซึ่งกันและกัน ไม่มองความแตกต่างเป็นเรื่องผิดแปลกหรือต่ำต้อย
การสอนให้ลูกรู้จักเคารพความแตกต่างและเรียนรู้เรื่องความเท่าเทียมทางเพศเป็นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่รุ่นใหม่ควรให้ความสำคัญ เพราะโลกที่เด็กๆ ของเรากำลังเติบโตขึ้นมานั้นมีแนวโน้มที่จะมีความหลากหลายทางเพศให้พบเห็นได้มากขึ้น หากคุณพ่อคุณแม่เป็นคนที่เปิดใจรับความแตกต่างและยอมรับในความเท่าเทียมทางเพศ ก็จะทำให้แนวทางการเลี้ยงลูกเป็นไปด้วยความเท่าเทียม ไม่แบ่งแยกหรือตีกรอบโดยใช้เพศเป็นข้อจำกัด
และการเลี้ยงลูกบนพื้นฐานความเท่าเทียมทางเพศ มีอะไรที่คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความสำคัญบ้าง เรารวบรวม 4 เทคนิคดีๆ มาบอกค่ะ
1. ไม่จำกัดกิจกรรมการเล่นของลูก
คุณพ่อคุณแม่หลายคนอาจมีกรอบความคิดที่ว่า เด็กผู้ชายควรเล่นของเล่นหรือทำกิจกรรมที่ได้ใช้พละกำลังและความแข็งแรง ส่วนเด็กผู้หญิงควรเล่นด้วยความเรียบร้อยและอ่อนหวาน ความคิดนี้ ทำให้หลายครอบครัวกำหนดกรอบการเล่นของเด็กผู้หญิงและผู้ชายให้แตกต่างกัน
Dr. Lise Eliot ศาสตราจารย์ด้านประสาทวิทยา โรงเรียนแพทย์ชิคาโก กล่าวว่า การกำหนดกิจกรรมให้ตรงกับเพศของเด็ก อาจเป็นการทำให้พัฒนาการของเด็กลดลง และการจำกัดการเล่นตามเพศของเด็ก อาจทำให้เด็กขาดการพัฒนาทักษะบางอย่างที่สำคัญได้
ทางที่ดีคุณพ่อคุณแม่ควรสนับสนุนให้เด็กผู้ชายรู้จักการเล่นด้วยความอ่อนโยนอย่างเด็กผู้หญิง และส่งเสริมให้เด็กผู้หญิงรู้จักใช้ความแข็งแรงของร่างกายและคิดวิเคราะห์แบบเด็กผู้ชายมากขึ้น
2. พ่อแม่มีความเคารพและให้เกียรติซึ่งกันและกันเสมอ
ทัศนคติของคุณพ่อคุณแม่ เป็นตัวกำหนดพฤติกรรม การแสดงออก และบทบาทของทุกคนในครอบครัว คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรแสดงพฤติกรรมแบ่งแยกทางเพศ เช่น การทำให้ลูกเข้าใจว่างานบ้านต้องเป็นหน้าที่ของแม่ เพราะว่าแม่เป็นผู้หญิง หรือคุณแม่เองก็ไม่ควรใช้ความเป็นผู้หญิงในการออกคำสั่งให้คุณพ่อทำอะไรเพราะเป็นผู้ชาย แต่ควรแสดงให้ลูกเห็นถึงการเคารพซึ่งกันและกัน และให้ความช่วยเหลือกันตามสมควร เช่น อธิบายให้ลูกเข้าใจว่า คุณแม่เป็นคนทำงานบ้านเพราะคุณแม่มีความละเอียดรอบคอบมากกว่า แต่คุณพ่อก็มักจะเข้ามาช่วยเสมอ
3. ไม่ตีกรอบในการแสดงออกทางอารมณ์หรือความรู้สึก
เด็กผู้ชายบางคนโตมากับการถูกสอนว่า เป็นลูกผู้ชายต้องไม่ร้องไห้ ในขณะที่เด็กผู้หญิงอาจจะถูกสอนให้เก็บอาการ ไม่แสดงอารมณ์ชอบหรือไม่ชอบให้ใครเห็น แต่ในความเป็นจริงแล้ว เด็กทุกคนล้วนมีอารมณ์และความรู้สึกที่ต้องการแสดงออกเพื่อให้คนอื่นรับรู้ การปิดกั้นการแสดงออกทางอารมณ์และความรู้สึกของลูก จะทำให้เกิดเป็นความกดดันและไม่สามารถจัดการกับอารมณ์ของตัวเองได้
ดังนั้นการสอนลูกให้รู้วิธีรับมือกับอารมณ์ของตัวเองคือสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรสอนและอธิบายให้ลูกเข้าใจ โดยไม่ใช้ข้อจำกัดทางเพศมาตีกรอบในการแสดงความรู้สึก
4. เปิดโอกาสให้ลูกได้เรียนรู้และทำความรู้จักคนที่มีความแตกต่างด้วยตัวเอง
คนที่เคารพ ให้เกียรติ และไม่รู้สึกแปลกแยกกับคนที่มีความแตกต่าง ต่างจากเด็กที่ไม่ค่อยได้พบเจอกับคนที่มีความหลากหลาย
ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่อาจจะเปิดโอกาสให้ลูกได้ทำความรู้จักหรือเข้าสังคมที่มีผู้คนหลากหลายไม่ว่าจะเป็นเพศ เชื้อชาติ ศาสนา หรือสีผิว เพื่อให้ลูกรู้จักการปรับตัวเข้ากับผู้อื่น และเรียนรู้เรื่องความเท่าเทียมทางสังคมด้วยตัวเอง
COMMENTS ARE OFF THIS POST