โดยธรรมชาติแล้ว เด็กแต่ละช่วงวัยจะต้องการเวลาสำหรับนอนหลับพักผ่อนที่แตกต่างกัน เช่น ทารกแรกเกิดควรนอนหลับ 8-9 ชั่วโมงในตอนกลางวันและนอนหลับอีกประมาณ 8 ชั่วโมงในตอนกลางคืน แต่มักจะนอนหลับเป็นช่วงสั้นๆ ไม่เกิน 1-2 ชั่วโมงต่อครั้ง และจะเริ่มนอนหลับครั้งละ 6-8 ชั่วโมง เมื่อทารกอายุประมาณ 3 เดือนขึ้นไป
สำหรับเด็กอายุ 1 ปีขึ้นไป ควรนอนหลับอย่างน้อยวันละ 14 ชั่วโมง โดยแบ่งเป็นการนอนหลับตอนกลางคืน 11 ชั่วโมง และนอนหลับตอนกลางวัน 3 ชั่วโมง
ดังนั้น การให้ลูกได้นอนหลับอย่างเพียงพอ จึงเป็นเรื่องสำคัญ เพราะนอกจากจะทำให้ลูกเติบโตและมีพัฒนาการสมวัยแล้ว ช่วงเวลาที่ลูกหลับ ยังเปรียบเสมือนเวลาทองที่คุณพ่อคุณแม่จะได้พักผ่อนหรือจัดการงานอื่นๆ ที่ตอนลูกตื่นคงไม่มีทางทำได้
แต่… ทำไมการพาลูกเข้านอนแต่ละครั้ง ไม่เคยผ่านไปได้ง่ายๆ วันนี้เรามีเทคนิคเล็กๆ น้อยๆ ที่จะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่พาลูกเข้านอนได้ง่ายขึ้นมาฝากค่ะ
1. พาลูกเข้านอนเวลาเดิมทุกวัน
การพาลูกเข้านอนในเวลาเดิมสม่ำเสมอทุกวันจะทำให้ร่างกายของลูกเรียนรู้ว่าถึงเวลาของการพักผ่อน จะทำให้ลูกนอนหลับได้ง่ายและหลับสนิทมากขึ้น
และเพื่อส่งสัญญาณให้ลูกรู้ว่าใกล้ถึงเวลานอน คุณพ่อคุณแม่ควรมีกิจกรรมหรือกิจวัตรบางอย่างที่ทำเป็นประจำก่อนส่งลูกเข้านอน เช่น แปรงฟัน ชวนลูกเก็บของเล่น หรืออ่านหนังสือนิทานด้วยกันหนึ่งเล่ม
2. ไม่ใช้อุปกรณ์ที่มีหน้าจอ เช่น โทรศัพท์มือถือและแท็บเล็ตก่อนนอน
การให้ลูกเล่นโทรศัพท์มือถือหรือใช้หน้าจอต่างๆ ก่อนเข้านอน จะทำให้สมองและร่างกายของลูกตื่นตัว และไม่รู้สึกง่วงนอน แต่คุณพ่อคุณแม่สามารถทำกิจกรรมเบาๆ เพื่อเป็นการผ่อนคลายให้ลูกได้ เช่น อ่านหนังสือนิทาน ฟังเพลงที่ไม่มีเนื้อร้อง และพูดคุย เพื่อส่งลูกเข้านอนด้วยความอบอุ่น
3. เสนอทางเลือกให้ลูก
แม้ว่าลูกจะไม่มีสิทธ์เลือกว่าจะนอนหรือไม่นอนได้ แต่คุณพ่อคุณแม่ก็สามารถเปิดโอกาสให้ลูกได้เลือกและมีส่วนร่วมในการนอนของตัวเองได้ เช่น อยากสวมชุดนอนสีอะไร ลูกอยากจะนอนเปิดไฟหรือปิดไฟ หรืออยากอ่านหนังสือนิทานเล่มไหนก่อนนอน
การมีทางเลือกให้กับลูกในการทำกิจวัตรต่างๆ จะทำให้ลูกรู้สึกมีส่วนร่วม ไม่ถูกบังคับ และรู้สึกว่าตัวเองมีความสำคัญพอที่จะแสดงความคิดเห็น เลือกสิ่งที่ต้องการได้ในทุกเรื่อง
4. ไม่ควรให้ลูกกินอาหารที่มีส่วนผสมของคาเฟอีนก่อนนอน
ผู้ใหญ่อย่างเรารู้กันดีกว่า คาเฟอีนส่งผลให้ร่างกายตื่นตัว กระปรี้กระเปร่า และอาจทำให้ลูกง่วงนอนได้ยากขึ้น
ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ไม่ควรให้ลูกกินอาหารหรือเครื่องดื่มที่มีส่วนผสมของคาเฟอีน เช่น ไอศครีมช็อกโกแลต น้ำอัดลม หรือโกโก้ ในช่วงเวลาเย็นหรือก่อนเข้านอน
COMMENTS ARE OFF THIS POST