READING

ลูกเปียกฝน ทำให้เป็นหวัดง่ายขึ้นจริงเหรอ...

ลูกเปียกฝน ทำให้เป็นหวัดง่ายขึ้นจริงเหรอ

ลูกเปียกฝน

เวลาฝนตก คุณพ่อคุณแม่มักพยายามห้ามไม่ให้ลูกออกไปเล่นน้ำฝน เพราะเพราะกลัวว่าจะทำให้ลูกเป็นหวัดและไม่สบายได้

แต่หลายครั้งที่ ลูกเปียกฝน เพราะความจำเป็นหรือไม่ได้ตั้งใจ เช่น เปียกฝนระหว่างเดินทาง โดนฝนตอนอยู่ที่โรงเรียน เมื่อคุณพ่อคุณแม่ทราบแล้วก็มักจะรีบบอกให้ลูกเช็ดตัวให้แห้ง อาบน้ำสระผมด้วยน้ำอุ่นทันที ดีไม่ดี บางบ้านมีความเชื่อเรื่องการให้กินยาแก้ไขดักไว้ก่อน เพื่อป้องกันไม่ให้ลูกเจ็บป่วยหรือไม่สบายได้

เพื่อคลายความสงสัยว่า หากปล่อยให้ ลูกเปียกฝน แล้วจะทำให้เป็นหวัดได้ง่ายจริงหรือเปล่า หรือความจริงแล้ว หากอยู่ในพื้นที่โล่งกว้างตามธรรมชาติแล้ว การให้ลูกเล่นน้ำฝนบ้าง อาจไม่ใช่เรื่องอันตรายเกินไปนัก หรือควรปกป้องดูแลลูกในฤดูฝนอย่างไร เรามีเรื่องราวเหล่านี้มาบอกค่ะ

1. ฤดูฝน ช่วงเวลาที่ทำให้ลูกป่วยง่ายขึ้น

rainsick_web_1

Dr. Shrey Srivastava อายุรแพทย์ โรงพยาบาลชาร์ดา ประเทศอินเดีย ระบุว่า ฤดูฝนทำให้เกิดโรคติดต่อต่างๆ มากมาย โดยเฉพาะโรคที่เกิดในเด็กเล็ก ไม่ว่าจะเป็น ไวรัสไข้หวัดใหญ่ ไวรัส RSV โรคมือเท้าปาก โรคท้องเสีย หรืออุจจาระร่วง ซึ่งมีสาเหตุมากจากไวรัสโรต้า รวมทั้งโรคที่มียุงเป็นพาหะ เช่น ไข้เลือดออก ชิคุนกุนยา และมาลาเรีย

#เสี่ยงเป็นหวัดง่ายขึ้นจริง ช่วงหน้าฝนจะเป็นช่วงที่เด็กๆ ป่วยง่ายที่สุด เพราะไวรัสตายยากขึ้น อยู่ในสิ่งแวดล้อมได้นานขึ้น แพร่กระจายและทนทานมากขึ้น เด็กๆ ที่ภูมิคุ้มกันยังทำงานไม่เต็มที่จึงมีโอกาสป่วยด้วยโรคต่างๆ ได้มากขึ้น

ดังนั้น เมื่อลูกเปียกฝน ทำให้มีโอกาสได้รับไวรัสได้ง่ายมากขึ้น รวมถึงการใกล้ชิดกับคนที่เป็นหวัด หรือโดยการสัมผัสพื้นผิวที่ปนเปื้อนเชื้อโรคต่างๆ ก็อาจทำให้ลูกมีน้ำมูก และเป็นไข้หวัดได้

2. ลูกเปียกฝน อาจทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลงชั่วคราว

rainsick_web_2

#ฝนทำให้ระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอลงชั่วคราว ลูกเปียกฝนนานๆ จะทำให้อุณหภูมิร่างกายลดต่ำลง ช่วงเวลานี้หากระบบภูมิคุ้มร่างกายของลูกอ่อนแอ เมื่อเจอเชื้อไวรัสที่ลอยอยู่ในอากาศ ใกล้ชิด หรือสัมผัสกับคนที่เจ็บป่วยหรือไม่สบายด้วยไวรัสก็มีโอกาสที่ลูกจะไม่สบายตามไปด้วยได้ง่าย

#ลูกมีน้ำมูกหลังตากฝน เมื่อฝนตกอุณหภูมิจะเย็นกว่าปกติ จมูกจะผลิตความชื้นออกมามากเกินไป ทำให้น้ำมูกใสไหลออกมาเล็กน้อยได้หลังจากตากฝน แต่การมีน้ำมูกใสไม่ได้เป็นข้อบ่งชี้ว่า ลูกกำลังจะไม่สบายเสมอไป

3. เปิดโอกาสให้ลูกได้สนุกไปกับน้ำฝน (บางครั้งบางคราว)

rainsick_web_3

Dr. Gina Posner กุมารแพทย์ที่ MemorialCare Orange Coast Medical Center ในเฟาน์เทนวัลเลย์ แคลิฟอร์เนีย ระบุว่า การเล่นท่ามกลางสายฝน โคลน และสิ่งสกปรกนั้นเป็นเรื่องที่ดีสำหรับเด็ก ส่วนหนึ่งเพราะจะช่วยสร้างระบบภูมิคุ้มกันที่ดี ทั้งยังมีการศึกษาพบว่า เด็กที่รักษาความสะอาดมากเกินไป อาจเจ็บป่วยได้ง่ายขึ้น ดังนั้นการปล่อยให้เด็กได้เล่นเลอะเทอะเล็กๆ น้อยๆ หรือได้เล่นน้ำฝนบ้าง จึงไม่ใช่สาเหตุหลัก หรือสาเหตุเดียวที่ทำให้เด็กเป็นไข้หวัดได้

#แต่งตัวให้พร้อมก่อนลุยฝน ให้ลูกสวมเสื้อและกางเกงขายาว พร้อมเสื้อกันฝน และรองเท้าบูทป้องกันการลื่นล้ม รวมทั้งเชื้อโรคและแมลงที่มาพร้อมกับความชื้นหรือแอ่งน้ำขัง นอกจากนี้คุณพ่อคุณแม่ควรเตรียมผ้าเช็ดตัว ไดร์เป่าผมพกพา และชุดใหม่สำหรับเปลี่ยนให้พร้อม

#สำรวจประสาทสัมผัสทั้งห้า วันที่ฝนตกเด็กๆ จะได้สังเกตการเปลี่ยนแปลงของสิ่งรอบตัว เช่น ฝนเปลี่ยนพื้นให้กลายเป็นโคลน เมื่อเหยียบลงไปทำให้เกิดรอยเท้า ทรายหายไปกลายเป็นแอ่งน้ำ ให้วิ่งเหยียบเล่น มองหาสัตว์น้อยๆ ที่ชอบออกมาหลังฝนตกอีกด้วย

#หลีกเลี่ยงเล่นแอ่งน้ำขัง โดยเฉพาะหลังจากฝนตกไปนานแล้ว เพราะเป็นแหล่งเพาะพันธุ์ยุงและเชื้อโรคบางชนิด และหากบริเวณที่มีน้ำขังนั้นอยู่ใกล้เสาไฟฟ้า หรือเครื่องใช้ไฟฟ้า อาจมีไฟฟ้ารั่วไหล ทำให้เกิดอุบัติเหตุไม่คาดคิดได้

4. สายฝน ทำให้ลูกได้เรียนรู้ชีวิต

rainsick_web_4

Dr. Daniel Ganjian กุมารแพทย์ที่ศูนย์สุขภาพ Providence Saint John ในซานตาโมนิกา แคลิฟอร์เนีย ให้ความคิดเห็นไว้อย่างน่าสนใจว่า ตราบใดที่ฝนยังตกอยู่ พ่อแม่ลูกควรมีโอกาสเล่นน้ำฝนร่วมกันบ้าง จะช่วยให้ลูกเห็นด้านที่เป็นคนสบายๆ สนุกสนาน และขี้เล่นของคุณพ่อคุณแม่ สิ่งเล็กๆ นี้คือ การสอนบทเรียนชีวิตอันมีค่าให้ลูก และเป็นภาพจำที่งดงาม

และบางที น้ำฝนก็เปรียบเหมือนสถานการณ์ที่ยากลำบากในชีวิต การเล่นน้ำฝนก็เหมือนการเรียนรู้ที่จะมีความสุข เต้นรำ และสนุกสนาน ไปกับอุปสรรคที่เข้ามาในชีวิตบ้างแต่ถึงอย่างนั้น คุณพ่อคุณแม่ควรพิจารณาถึงสถานที่เล่นน้ำฝน ช่วงเวลาฝนตก ปริมาณของน้ำฝน และระยะเวลาที่จะให้ลูกได้เล่นน้ำฝน เพื่อความปลอดภัยทั้งทางร่างกายและสุขภาพของลูกนะคะ

 

ระวังลูกน้อย! โรคติดต่อ 4 ประเภทที่มาพร้อมหน้าฝน
อ้างอิง
romper
onlymyhealth
doc2us

Saranya A.

ศรัญญา อ่าวสมบัติกุล: คุณแม่มือใหม่ ที่มีความตั้งใจเลี้ยงลูกชายตัวน้อยด้วยการยึดโยงธรรมชาติ และความคิดสร้างสรรค์เข้าด้วยกัน คุณแม่คนนี้หลงรักและทำงานด้านการเขียนมากว่า 12 ปี ตอนนี้มีความฝันอยากเป็นนักวาดนิทานเด็ก

RELATED POST

COMMENTS ARE OFF THIS POST