การสอน ทักษะชีวิตสำคัญ ให้ลูก คือประสบการณ์ล้ำค่าที่คุณพ่อคุณแม่สามารถมอบให้ลูกได้ตั้งแต่ยังเล็ก โดยเฉพาะช่วงปฐมวัยของชีวิต และวัยอนุบาล หรือช่วงอายุก่อน 6 ปี เพราะเป็นช่วงวัยที่ลูกจะสามารถเรียนรู้ ฝึกฝน และจดจำทักษะที่สำคัญกับชีวิตได้ดีที่สุด
4 ทักษะชีวิตสำคัญ ที่ลูกควรเรียนรู้ ได้แก่ ทักษะการตัดสินใจ ทักษะการคิดและแก้ปัญหา ทักษะการพึ่งพาตัวเอง และทักษะการเข้าสังคม ซึ่งคุณพ่อคุณแม่สามารถสอนลูกผ่านการใช้ชีวิตประจำวันได้
1. ทักษะการตัดสินใจ
#เปิดโอกาสให้ลูกได้เลือกเอง การสอนทักษะการตัดสินใจให้กับลูกวัยอนุบาล มีส่วนทำให้ลูกเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่มีคุณภาพ โดยคุณพ่อคุณแม่สามารถเริ่มต้นสอนด้วยขั้นตอนพื้นฐานง่ายๆ เพียงแค่ให้ลูกเลือกด้วยตัวเอง ตั้งแต่เสื้อผ้า รองเท้า ของเล่น หรือขนม เพื่อให้ลูกเรียนรู้ว่าเขาสามารถตัดสินใจทั้งเรื่องเล็กๆ น้อยๆ และเรื่องที่สำคัญในชีวิตตัวเองได้
#ปล่อยให้ลูกได้เจอกับผลที่ตามมา เมื่อการตัดสินใจนำมาซึ่งผลลัพธ์ที่ไม่คาดคิด ลูกวัยอนุบาลอาจจะไม่สามารถเข้าใจและยอมรับผลที่ตามมา ทำให้ลูกผิดหวังเสียใจสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ควรทำก็คือให้เวลาลูกเรียนรู้และยอมรับผลของการตัดสินใจนั้นด้วยตัวเอง
#เรียนรู้การชั่งน้ำหนักก่อนตัดสินใจ คุณพ่อคุณแม่ควรให้ความสำคัญกับการสอนให้ลูกเรียนรู้เรื่องการชั่งน้ำหนัก ไตร่ตรอง และทบทวนถึงผลที่จะตามมาให้ดีก่อนตัดสินใจ เพื่อให้ลูกลูกจะค่อยๆ เรียนรู้ว่าบางอย่าง เมื่อตัดสินใจไปแล้ว จะไม่สามารถย้อนกลับมาแก้ไข้ได้อีก
2. ทักษะการคิดวิเคราะห์ และการแก้ปัญหา
Amy Morin นักจิตบำบัดและผู้เขียนหนังสือขายดี ในระดับสากล ระบุว่า การคิดวิเคราะห์เป็นส่วนสำคัญของการแก้ปัญหา การตัดสินใจและการตั้งเป้าหมาย ทั้งยังเป็นพื้นฐานของการเรียนรู้เรื่องการอ่านและการประมวลผลของเด็กปฐมวัย ซึ่งสามารถฝึกฝนทักษะทั้งสองนี้ได้ผ่านชีวิตประจำวันของลูกได้
#ตอบคำถามเจ้าหนูช่างถาม เด็กเล็กมักจะเริ่มต้นการเรียนรู้และคิดด้วยคำว่า ‘ทำไม’ หลายครั้งที่ลูกถามจนคุณพ่อคุณแม่เองก็จนมุมที่จะตอบ แต่ทั้งนี้ เรายังสามารถชี้ชวนให้ลูกคิดด้วยการตั้งคำถามและช่วยกันหาคำตอบต่อไปได้
นี่คือจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะทำให้ลูกเรียนรู้ทักษะการคิดวิเคราะห์ ช่วยกระตุ้นการตัดสินใจโดยใช้ข้อมูลหรือหลักฐาน มากกว่าการใช้อารมณ์และความรู้สึก
#ปล่อยให้ลูกวิ่งเล่นจนเหนื่อย เป็นหนึ่งในกิจกรรมพื้นฐานที่ช่วยส่งเสริมกระบวนการคิดและฝึกแก้ปัญหา ผ่านการลองผิดลองถูกของตัวเอง และเมื่อลูกเจอปัญหาระหว่างการเล่น คุณพ่อคุณแม่สามารถแนะนำและสอนวิธีแก้ปัญหาด้วยการชวนลูกคิด เปิดใจเปิดกว้างสำหรับข้อมูลรอบด้าน และลองหาวิธีแก้อย่างน้อย 5 วิธี พร้อมกระตุ้นให้ลูกถามคำถามออกมา เพื่อนำไปสู่การแก้ไขปัญหาต่างๆ
#สอนลูกให้เป็นนักช้อปที่ฉลาด คุณพ่อคุณแม่สามารถใช้วิธีการเปรียบเทียบราคาสิ่งของที่ลูกอยากได้ จากร้านค้า หรือเปรียบเทียบคุณภาพระหว่างของชิ้นเดียวกันแต่ราคาที่ต่างกัน พร้อมชี้ชวนให้ลูกเดินดูร้านอื่นๆ เพื่อให้ลูกเกิดกระบวนการคิดก่อนตัดสินใจ
นอกจากจะช่วยให้คุณพ่อคุณแม่สามารถรับมือกับความอยากได้ของลูก ฝึกฝนกระบวนการคิดวิเคราะห์และแกก้ปัญหาแล้ว ยังช่วยสอนลูกให้เรียนรู้การจัดการเงิน ความสำคัญของเงิน วิธีการประหยัด การใช้จ่ายอย่างชาญฉลาด และที่สำคัญยังเป็นการเตือนลูกๆ ด้วยว่า การสแกนเงินผ่านแอปพลิเคชั่น หรือการใช้บัตรเครดิตของคุณพ่อคุณแม่ แม้จะไม่ได้เห็นเป็นธนบัตรจับต้องได้ แต่ก็ไม่มีอะไรที่ได้มาอย่างฟรีๆ
3. ทักษะการพึ่งพาตัวเอง
การพึ่งพาตัวเองคือ ทักษะชีวิตที่สำคัญต่อทุกช่วงวัย โดยเฉพาะเมื่อลูกเติบโตเป็นผู้ใหญ่ การรู้จักดูแลและพึ่งพาตัวเองจะช่วยสร้างความมั่นคงให้กับชีวิตของลูกต่อไปได้
#กิจวัตรประจำวันต้องทำให้ได้ โดยเฉพาะกิจวัตรพื้นฐาน เช่น อาบน้ำ แปรงฟัน แต่งตัวด้วยตัวเอง กินข้าวเอง เก็บของเล่น ใส่ถุงเท้า–รองเท้า โดยคุณพ่อคุณแม่ช่วยแนะนำ และติดตามผลอย่างใกล้ชิดอยู่เสมอ
#สอนเรื่องเวลา เมื่อกิจวัตรทำได้ สามารถทำตามกำหนดเวลาง่ายๆ ได้ ลูกก็จะกลายเป็นผู้ควบคุมเวลา คุณพ่อคุณแม่สามารถสอนการลำดับความสำคัญ เพื่อให้ลูกรู้ว่าควรทำอะไรก่อนหลัง ซึ่งเป็นทักษะติดตัวลูกไปจนโต
เทคนิคง่ายๆ ที่ทำให้ลูกเรียนรู้เรื่องเวลาก็คือ เสียงเตือนจากนาฬิกา และการใช้เลือกนาฬิกาที่มีเข็มสั้นเข็มยาวพร้อมตัวเลขที่เห็นได้ชัดเจน
#สอนทำกับข้าว ฝึกฝนให้ลูกทำอาหารและเรียนรู้การเตรียมอาหารง่ายๆ ได้ด้วยตัวเอง เช่น การทอดไข่ดาว การทำไข่เจียว การทำแซนวิช วิธีการหุงข้าว การใช้ไมโครเวฟ การปรุงอาหารง่ายๆ บนเตาแม่เหล็กไฟฟ้า โดยมีคุณพ่อคุณแม่คอยดูแลและช่วยเหลือ
#ทำงานบ้านตามวัย งานบ้านเล็กๆ น้อยๆ ที่เหมาะกับเด็กวัยอนุบาล และสามารถฝึกให้ลูกช่วยได้ เช่น ซักเสื้อผ้าชิ้นเล็กๆ ทำความสะอาดสิ่งของส่วนตัว หรือห้องนอนของตัวเอง นอกจากช่วยฝึกวินัยและความรับผิดชอบแล้ว ยังดีต่อพัฒนาการทางกล้ามเนื้อมัดเล็กของลูกอีกด้วย
#นักซ่อมแซมประจำบ้าน หนึ่งในการกระตุ้นให้ลูกพึ่งพาตัวเองได้ก็คือส่งเสริมให้ลูกเป็นผู้ช่วยซ่อมแซมสิ่งของ หรือดูแลความเรียบร้อยเล็กๆ น้อยๆ ภายในบ้าน เช่น เปลี่ยนม้วนกระดาษชำระ ใส่ถุงดำในถังขยะ และซ่อมหนังสือนิทานที่ขาด
4. ทักษะการเข้าสังคม
#แบ่งปันและผลัดกันเล่น ทักษะพื้นฐานในการเข้าสังคมสำหรับเด็กเล็กก็คือการแบ่งปันและผลัดกันเล่นกับเพื่อนในวัยเดียวกัน
#ฝึกการอดทนรอคอยจากชีวิตประจำวัน เด็กเล็กก็มีสถานการณ์ที่ต้องรอคอยมากมาย เช่น การรอคุณหมอ การรอคุณแม่ทำกับข้าว รอคุณพ่อทำงานให้เสร็จ รวมไปถึงการต่อแถวซื้อของ
ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่สามารถสอนให้ลูกอดทนรอคอยได้ด้วยการสะท้อนความคิดของลูก เช่น แม่เข้าใจว่าการรอมันยาก แต่ลูกทำได้ดีแล้ว หรือบางสถานการณ์อาจแนะนำให้ลูกเห็นว่าคนอื่นก็ต้องรอคอยเช่นกัน
#ฝึกฝนการพูดที่ดี ตั้งแต่การกล่าวทักทายผู้ใหญ่ด้วยความนอบน้อม หรือทักทายเพื่อนๆ อย่างเป็นมิตร การขอบคุณทุกครั้งที่ได้รับการช่วยเหลือหรือได้รับสิ่งของ การกล่าวคำขอโทษเมื่อไม่ได้ตั้งใจ และการใช้ประโยคขอร้องแทนประโยคคำสั่ง ด้วยการส่งเสริมให้ลูกใช้คำว่า ได้ไหม เมื่อต้องการขอความช่วยเหลือ เช่น ‘ช่วยหยิบหนังสือเล่มนั้นให้หน่อยได้ไหมคะ’ แทนที่จะใช้การออกคำสั่งว่า ‘หยิบหนังสือเล่มนั้นให้หน่อย’ บทเรียนเหล่านี้จะเป็นทักษะชีวิตที่สำคัญและลูกสามารถเรียนรู้ได้ดีตั้งแต่วัยอนุบาล
COMMENTS ARE OFF THIS POST