READING

รวม 5 คอนเทนต์แนะนำ หมวด ‘การเรียนของลูกR...

รวม 5 คอนเทนต์แนะนำ หมวด ‘การเรียนของลูก’ ปี 2021

การเรียน

ปี 2021 ที่ผ่านมา ไม่ใช่แค่ผู้ใหญ่ที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์การระบาดของโรคโควิด-19 แต่เด็กๆ นอกจากจะไม่ได้ออกไปเที่ยวเล่นเรียนรู้โลกกว้างแล้ว รูปแบบ การเรียน ของลูกก็ต้องเปลี่ยนไป จากที่ควรได้ไปโรงเรียน ได้เจอเพื่อนๆ ได้เจอคุณครู ได้มีปฏิสัมพันธ์กันซึ่งหน้า ก็เปลี่ยนเป็นต้องนั่งเรียนออนไลน์ผ่านหน้าจออยู่ที่บ้าน

แน่นอนว่าการเปลี่ยนแปลงดังกล่าวย่อมตามมาด้วยปัญหาจุกจิกที่ทุกคนในครอบครัวต้องปรับตัวและช่วยเหลือกันสุดๆ 

M.O.M จึงได้มีการทำคอนเทนต์เกี่ยวกับ การเรียน ออนไลน์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการปรับตัวของพ่อแม่ที่ต้องเพิ่มสถานะของการเป็นครูที่บ้าน ลูกที่เกิดความเครียดจากการจ้องจอทั้งวัน หรือแม้แต่การได้กลับไปโรงเรียนท่ามกลางสถานการณ์ที่ยังไม่ปกติ

วันนี้เราจึงได้รวบรวมคอนเทนต์ที่แนะนำจากหมวดการเล่าเรียนของเจ้าตัวน้อยในปี 2021 มาฝากคุณพ่อคุณแม่กันค่ะ

1. รับมืออย่างไร เมื่อ ‘เรียนออนไลน์’ ทำให้บ้านต้องกลายเป็นโรงเรียน และพ่อแม่ต้องเป็นคุณครูจำเป็น

เรียนออนไลน์

เมื่อสถานการณ์โควิด-19 ในประเทศเรายังไม่มีแนวโน้มว่าจะเป็นไปในทิศทางที่ดีขึ้น สิ่งที่เคยเรียกว่า new normal ก็กลายเป็นเรื่องที่ต้องทำต่อเนื่องมาอย่างยาวนาน จนกลายเป็นความปกติที่ไม่ใช่เรื่องใหม่

แต่ถึงไม่ใช่เรื่องใหม่ ก็ยังไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะปรับและเปลี่ยนวิถีชีวิตธรรมดา เคยออกไปทำงาน เคยนั่งกินข้าวในร้านอาหาร เคยนัดพบเพื่อนฝูง และกิจวัตรหลายอย่างที่ต้องขาดหายไป และทำใจให้คุ้นเคยกับวิถีชีวิตแบบใหม่ work from home บ้างล่ะ อยู่บ้านสั่งอาหารเดลิเวรี่ และพบปะผู้คนทางหน้าจอมากกว่าตัวจริง

และสำหรับครอบครัวที่มีลูกอยู่ในวัยเรียน เมื่อโรงเรียนประกาศให้เรียนออนไลน์ เมื่อนั้นบ้านก็ต้องทำหน้าที่เป็นโรงเรียน โดยมีคุณพ่อคุณแม่รับตำแหน่งคุณครูจำเป็นไปโดยปริยาย

แต่เดี๋ยวก่อน… ถึงแม้คุณพ่อคุณแม่มีเวลาอยู่บ้านมากขึ้น (เพราะออกไปทำงานไม่ได้) แต่งานที่หอบกลับมาทำที่บ้านก็ไม่ได้น้อยลง หน้าที่ตัวเองก็ยังรับผิดชอบ การเรียนของลูกก็ทิ้งไม่ได้ คุณพ่อคุณแม่ที่ต้องรับงานคุณครูจำเป็นไปด้วยจะรับมือเรื่องนี้อย่างไร มาช่วยกันหาทางออกค่ะ

 

— อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่นี่ https://aboutmom.co/features/study-at-home/23281/

2. เมื่อลูกเครียดเพราะเรียนออนไลน์: 4 วิธี ช่วยลูกลดความเครียด จากการเรียนผ่านหน้าจอ

เครียด

แม้การเรียนออนไลน์จะเป็นทางออกให้เด็กๆ ได้เรียนหนังสือในช่วงเวลาที่มีโรคระบาดโควิด-19 แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าการนั่งเรียนผ่านหน้าจอ ไม่ได้พบปะคุณครู ไม่ได้วิ่งและคุยเล่นกับเพื่อน ก็ไม่ใช่วิธีที่เหมาะที่สุดสำหรับเด็กๆ อยู่ดี

จากการสำรวจสุขภาพจิตของเด็กๆ ในประเทศสหรัฐอเมริกา ปี 2020 พบว่า เด็กที่เรียนออนไลน์มีแนวโน้มสุขภาพจิตแย่ลงมากถึง 25 เปอร์เซ็นต์ ในขณะที่เด็กเรียนตัวต่อตัวกับครู สุขภาพจิตแย่ลง 16 เปอร์เซ็นต์ ซึ่งพอจะบอกได้ว่าเด็กๆ ต้องการเรียนรู้ไปพร้อมๆ กับการเข้าสังคมพบเจอคุณครูและเพื่อนๆ ที่โรงเรียนมากกว่าการเรียนผ่านหน้าจออุปกรณ์ใดๆ

แต่ต้องยอมรับว่าในสถานการณ์เช่นนี้ เด็กๆ คงไม่สามารถกลับไปเรียนที่โรงเรียนตามปกติได้ในเร็ววัน แล้วอย่างนี้ พ่อแม่อย่างเราจะช่วยลูกบรรเทาความเครียดจากการเรียนออนไลน์ได้อย่างไรบ้าง 

วันนี้ M.O.M มีวิธีช่วยลูกลดความเครียดจากการเรียนผ่านหน้าจอมาฝากกันค่ะ 

 

— อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่นี่ https://aboutmom.co/features/stress-from-online-learning/23268/

3. 6 เรื่องสำคัญ เมื่อลูกต้องไปโรงเรียนในยุคโควิด-19

ไปโรงเรียน

หลังจากปิดโรงเรียนและเรียนผ่านระบบออนไลน์กันมานาน ก็ถึงเวลาแล้วที่เด็กๆ หลายคนจะได้กลับไปเจอเพื่อนๆ และคุณครูที่โรงเรียนกันตั้งแต่วันที่ 1 พฤศจิกายน เป็นต้นมาแต่ถึงแม้สถานการณ์ดูเหมือนจะคลี่คลายไปในทางที่ดี แต่ก็ปฏิเสธไม่ได้ว่าประเทศไทยยังมีผู้ติดเชื้อรายวันเป็นจำนวนมาก และเสี่ยงต่อการเกิดคลัสเตอร์ใหม่ได้ทุกเมื่อ

ดังนั้นการป้องกันและระวังตัวอย่างเคร่งครัด จึงเป็นเรื่องสำคัญโดยเฉพาะเด็กๆ ที่จะต้องกลับไปใช้ชีวิตในโรงเรียนยุคโควิด-19 เรื่องสำคัญที่คุณพ่อคุณแม่ควรย้ำให้ลูกเข้าใจและทำตามเสมอ มีอะไรบ้าง เราลองรวบรวมมาฝากค่ะ

 

— อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่นี่ https://aboutmom.co/features/back-to-school-in-the-era-of-covid-19/24765/

4. ไม่ใช่แค่ผู้ใหญ่ที่หมดไฟ แต่เด็กหมดความสนใจกับการเรียนได้… เพราะอะไรกันนะ?!

หมดไฟ

วัยเด็กคือช่วงเวลาแห่งการเรียนรู้ ดังนั้นสิ่งที่คุณพ่อคุณแม่และผู้ใหญ่ทุกคนคาดหวังว่าจะได้เห็นจากเด็กๆ ก็คือการตื่นเต้นที่จะได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ อยู่เสมอ

แต่ในความเป็นจริงแล้ว ไม่ใช่เด็กทุกคนที่จะรู้สึกสนุกและตื่นเต้นกับการเรียนรู้ของตัวเองตลอดเวลา เด็กบางคนเปิดเทอม ไปโรงเรียนได้ไม่เท่าไร ก็เริ่มมีอาการเบื่อ งอแง ไม่อยากไปเรียน ไม่อยากทำกิจกรรม ไม่อยากไปเล่นสนุกกับเพื่อน กลายเป็นเด็กที่ไม่มีความกระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ หรือหนักข้อถึงขั้นต่อต้านการเรียนเลยก็มี

แต่สาเหตุของอาการและพฤติกรรมไม่อยากเรียนรู้ที่เกิดขึ้นกับเด็กๆ จะเป็นเพราะอะไรได้บ้าง ลองมาสังเกตไปด้วยกันค่ะ

 

— อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่นี่ https://aboutmom.co/features/lose-interest/24955/

5. 5 เหตุผล ที่ทำให้ลูกไม่อยากไปโรงเรียน

ไม่อยากไปโรงเรียน

ถึงแม้คุณพ่อคุณแม่จะเฝ้ารอการเปิดเทอมที่ลูกจะได้กลับไปเรียนที่โรงเรียนมากแค่ไหน ก็ต้องยอมรับว่าสำหรับเด็กบางคน การไปโรงเรียนไม่ใช่เรื่องน่ายินดีเท่าไรนัก 

ถ้าลูกชอบและมีความสุขกับการไปโรงเรียน ก็นับว่าเป็นโชคดีของคุณพ่อคุณแม่ แต่หากวันดีคืนดีพบว่าลูกน้อยเกิดไม่แฮปปี้กับการตื่นเช้าไปโรงเรียนและอาจจะมีวิธีแสดงออกในรูปแบบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นร้องไห้งอแง วิตกกังวล ไปจนถึงอาการเจ็บป่วย เช่น  ปวดท้องหรือปวดหัว ซึ่งเป็นกลไกการต่อต้านทางร่างกายที่อาจเกิดขึ้นได้เมื่อลูกมีความเครียด ดังนั้น หากพบว่าลูกเริ่มมีอาการงอแงและไม่อยากไปโรงเรียน ก็ต้องลองย้อนมามองหาสาเหตุว่าอะไรทำให้ลูกรู้สึกไม่มีความสุขกับการไปโรงเรียน แล้วช่วยกันหาทางแก้ไขให้เร็วที่สุดนะคะ

 

— อ่านบทความฉบับเต็มได้ที่นี่ https://aboutmom.co/features/dont-want-to-go-to-school/25060/


Anittha R

หลงรักธรรมชาติของความเป็นเด็ก ชอบดูหนัง ชอบหนังสือนิทาน รักการเลี้ยงต้นไม้ และใฝ่ฝันอยากทำสวนกระบองเพรชที่มีดอกเยอะๆ

RELATED POST

COMMENTS ARE OFF THIS POST