เด็กๆ ที่กำลังเติบโต ย่อมต้องการที่จะเรียนรู้และพัฒนาทักษะต่างๆ ในชีวิต ไม่ว่าจะเป็นทักษะการพูด การเข้าสังคม หรือทักษะการจัดการความคิด ทั้งหมดล้วนเป็นทักษะสำคัญที่หล่อหลอมให้เด็กได้เติบโตขึ้นเป็นผู้ใหญ่ที่สมบูรณ์ในแบบของตัวเอง
เมื่อถึงวัยหนึ่ง หนึ่งในประโยคที่คุณพ่อคุณแม่เริ่มจะได้ยินลูกหยิบเอาพูด หรือใช้เป็นเหตุผลตอบคำถามบ่อยๆ ก็คือ “หนูลืมค่ะ” หรือ “ผมจำไม่ได้ครับ” และเมื่อได้ยินบ่อยเข้าคุณพ่อคุณแม่อาจเกิดความกังวลว่าลูกจะมีความบกพร่องทางความจำและการเรียนรู้ พลอยทำให้กังวลว่าลูกจะติดนิสัยเป็นคนขี้ลืมไปจนโตหรือไม่ เรามีเทคนิคดีๆ มาบอกคุณพ่อคุณแม่
เมื่อเบบี๋เริ่มเข้าสู่วัยหัดเดิน (Toddler) ก็มักจะมีพฤติกรรมบางอย่างที่พัฒนาจนทำให้คุณพ่อคุณแม่รู้สึกตื่นเต้น แต่ก็ยังมีอีกหลายพฤติกรรมที่ทำให้คุณพ่อคุณแม่ต้องปวดหัวไม่น้อย หนึ่งในพฤติกรรมที่เกิดขึ้นพร้อมๆ กับวัยหัดเดินของลูกก็คือการขว้างปาข้าวของ แรกๆ ก็อาจจะดูน่ารัก แต่เมื่อลูกเริ่มหยิบทุกสิ่งและขว้างปาทุกอย่าง คุณพ่อคุณแม่ก็เริ่มต้องหาทางจัดการกับพฤติกรรมนี้บ้าง
คุณพ่อคุณแม่ทราบไหมคะว่าสมาธินั้นสำคัญกับชีวิตของเราอย่างไรบ้าง และเมื่อพูดถึงสมาธิ หลายคนอาจจะนึกถึงการนั่งสมาธิ หายใจเข้าและหายใจออกช้าๆ และจดจ่อกับสิ่งใดสิ่งหนึ่งได้นานๆ แต่ความจริงแล้ว เราสามารถมีสมาธิได้แม้จะไม่ได้กำลังนั่งสมาธิ และสามารถมีสมาธิได้ในขณะทำกิจกรรมต่างๆ โดยคนที่มีสมาธินั้นนอกจากจะทำให้ใจเย็นแล้ว ยังช่วยลดความเครียด ความวิตกกังวลต่างๆ มีอารมณ์และจิตใจที่แจ่มใสยิ่งขึ้น และที่สำคัญก็คือสมาธินั้น ไม่ได้มีประโยชน์แค่กับผู้ใหญ่อย่างเราเท่านั้น แต่เด็กๆ เองก็ควรได้รับการฝึกให้มีสมาธิเช่นกันค่ะ
ความยืดหยุ่นในเชิงจิตวิทยา (Resilience) คือ การปรับตัว การฟื้นคืนกลับมามีความสุขได้หลังจากสถานการณ์ที่เลวร้าย ความยืดหยุ่นจึงมีความสำคัญต่อจิตใจของคนเรา ถือเป็นสกิลสำคัญที่ทำให้เรารับมือกับเหตุการณ์ไม่คาดฝันที่อาจเกิดขึ้นกับชีวิตได้ เมื่อล้มก็กลับมาลุกขึ้นยืนได้ ไม่เสียเวลาอยู่กับความเครียดหรือความวิตกกังวลมากและนานเกินไป