ปัจจุบันหน้าจอคอมพิวเตอร์ โทรทัศน์ โทรศัพท์มือถือ หรือแท็บเล็ต เป็นสิ่งที่ใกล้ชิดและอยู่ในชีวิตประจำวันของเราทุกคนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แม้แต่เด็กๆ ก็จำเป็นที่จะต้องใช้อุปกรณ์เหล่านี้ในการเรียนรู้ ถ้าหากคุณพ่อคุณแม่ละเลยหรือปล่อยให้ลูกใช้เวลากับอุปกรณ์เหล่านี้มากเกินไปและผิดวิธี ย่อมไม่เป็นผลดีกับลูก
การเลี้ยงลูกนอกจากจะมีรอยยิ้ม ความสุข เสียงหัวเราะแล้ว ก็ยังมีความน่าหงุดหงิดใจ โมโห และเสียใจปนอยู่ จนบางครั้งคุณพ่อคุณแม่เองก็เครียดจนเผลอระเบิดอารมณ์ใส่ลูกกลับไปบ้าง แต่การโมโห หงุดหงิด และใช้อารมณ์กับลูก แม้ต้นเหตุจะมาจากลูกตัวแสบก็เถอะ ไม่เคยได้ผลลัพธ์ที่ดีอย่างแท้จริง เพราะการตอบโต้ลูกด้วยอารมณ์จะจะทำให้ลูกรู้สึกแย่ ไม่ไว้วางใจคุณพ่อคุณแม่ และเลียนแบบพฤติกรรมและการใช้อารมณ์ของพ่อแม่
เห็นหัวข้อแล้วคุณพ่อคุณแม่อาจจะสงสัยว่า ใช่เหรอ!? ทำไมเราถึงควรจะปล่อยให้ลูกได้ลองทำเรื่องเสี่ยงหรือมีอันตรายดูบ้าง! จะเป็นไปได้ยังไง และจะทำไปเพื่ออะไรกัน คุณพ่อคุณแม่ทุกคนก็ต้องเป็นห่วงสวัสดิภาพและความปลอดภัยของลูกด้วยกันทั้งนั้น อย่าว่าแต่จะปล่อยให้ไปเสี่ยงอันตรายเลย ถ้าเป็นไปได้คุณพ่อคุณแม่ก็อยากจะคอยสอดส่องและสังเกตการณ์ให้แน่ใจว่าลูกน้อยของเราจะไม่ตกอยู่ในอันตรายใดๆ
การป้องกันตัว นอกจากจะเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานที่มนุษย์ทุกคนพึงมีเพื่อปกป้องตัวเองจากการถูกทำร้าย คุกคาม หรือถูกทำให้รู้สึกตกอยู่ในอันตรายได้ ดังนั้น คุณพ่อคุณแม่จึงควรสอนและเปิดโอกาสให้ลูกได้เรียนรู้วิธีการป้องกันตนเองเบื้องต้น เพื่อให้ลูกรู้จักนำมาใช้ปกป้องตัวเองในเวลาที่เกิดเหตุการณ์คับขันได้
คุณพ่อคุณแม่ยังจำความรู้สึกตัวเองตอนเปิดเทอมครั้งแรกในโรงเรียนใหม่ เพื่อนใหม่ ครูประจำชั้นคนใหม่ได้ไหมคะ จำความรู้สึกประหม่า หวาดกลัว ไม่มั่นใจในตัวเองตอนนั้นได้หรือเปล่า กว่าเด็กคนหนึ่งจะรู้สึกคุ้นเคยกับโรงเรียนหรือสถานที่ใหม่ๆ ที่ไม่มีคุณพ่อคุณแม่อยู่ด้วยก็ไม่ใช่เรื่องง่าย