ในสถานการณ์ที่เชื้อไวรัส COVID-19 กำลังแพร่ระบาด ทุกคนในสังคมเริ่มวิตกกังวลว่าตัวเองจะมีโอกาสติดเชื้อหรือไม่ แต่ถ้าคนทั่วไปกังวลแล้ว เราเชื่อว่าคุณแม่ที่กำลังตั้งครรภ์ก็คงกังวลกับสถานการณ์นี้มากขึ้นเป็นสองคน วันนี้เราลองหาคำตอบเรื่องนี้มาฝากค่ะ
หลังจากมีการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 เกิดขึ้นทั่วโลก โดยเฉพาะประเทศไทย ที่กำลังมีจำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้ทุกครอบครัวต้องปรับเปลี่ยนการใช้ชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะเป็นการทำงานที่บ้านของคุณพ่อคุณแม่ ลูกไม่ได้ไปโรงเรียน การสวมใส่หน้ากากอนามัยเมื่อออกนอกบ้าน การล้างมือบ่อยๆ หรือสิ่งเหล่านี้น่าจะสร้างความสงสัยให้เจ้าตัวเล็กไม่น้อย
ในขณะที่เชื้อไวรัส COVID-19 กำลังแพร่ระบาด และส่งผลให้มีจำนวนผู้ติดเชื้อสะสมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ นอกจากการป้องกันตัวเองด้วยการสวมใส่หน้ากากอนามัยและล้างมือบ่อยๆ แล้ว การลดความเสี่ยงที่จะได้รับเชื้อและแพร่เชื้อต่อไปก็คือลดการออกนอกบ้าน และที่เริ่มได้ยินคนพูดถึงมากขึ้นเรื่อยๆ ก็คือการทำ Social Distancing
สำหรับสถานการณ์ที่ทุกคนในสังคมกำลังตื่นตัว เพื่อต่างปกป้องตัวเองให้ปลอดภัยจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส COVID-19 ก็ต้องไม่ลืมว่า บรรยากาศที่ตึงเครียดและความแตกตื่นในสังคม อาจจะส่งผลกระทบต่อจิตใจของลูกน้อยไปด้วยดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรพูดคุยข้อมูลเบื้องต้นที่เด็กๆ ควรรับรู้เกี่ยวกับโรคและการป้องกันตัวเองจากนี้อย่างถูกต้อง
ปัจจุบันโรค Covid-19 กำลังขยายตัวและแพร่ระบาดอย่างมากความน่ากลัวของโรคนี้ก็คือการติดต่อผ่านระบบทางเดินหายใจ หรือแม้แต่การสัมผัสสิ่งของร่วมกับผู้ป่วยหรือผู้มีเชื้อ แล้วนำเชื้อเข้าสู่ร่างกายตัวเองผ่านการใช้มือสัมผัสหน้า ตา จมูก หรือปาก
การระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 ยังคงไม่มีทีท่าว่าจะเบาลง แถมยังดูที่จะร้ายแรงขึ้นอีกด้วย ทำให้บางพื้นที่จำเป็นต้องปิดชั่วคราวเพื่อทำการควบคุมและฆ่าเชื้อโรค และผู้ที่ป่วยก็เข้ารับการตรวจและรักษา ส่วนผู้ที่สัมผัสกับผู้ป่วยหรือแหล่งระบาดก็จำเป็นที่จะต้องกักตัว 14 วันเพื่อดูอาการ คุณพ่อคุณแม่บางคนอาจเริ่มเป็นกังวลใจ เพราะจำเป็นจะต้องออกไปข้างนอกเพื่อทำงาน พบปะผู้คน จำเป็นต้องไปอยู่ในสถานที่แออัด หรือในบางครั้งอาจกลายเป็นหนึ่งในผู้มีความเสี่ยงที่จะเชื้อโรคกลับมาที่บ้าน
M.O.M ได้มีโอกาสเข้าร่วมเสวนางาน ‘ไวรัสโคโรน่าสายพันธุ์ใหม่ 2019 และ ฝุ่นพิษ PM 2.5’ จากสถาบันแห่งชาติเพื่อการพัฒนาเด็กและครอบครัว มหาวิทยาลัยมหิดล ศาลายา โดย รศ.นพ. อดิศักดิ์ ผลิตผลการพิมพ์ ได้มาให้ความรู้แก่ผู้ปกครองที่มีความเป็นห่วงและกังวลว่าลูกจะมีโอกาสได้รับผลกระทบจากปัญหาทั้งสองอย่างนี้
อย่างที่รู้กันว่าปัญหาฝุ่น PM 2.5 ในประเทศเรากำลังรุนแรงและไม่มีทีท่าว่าจะดีขึ้น ได้กลายเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้ประชาชนในพื้นที่ต่างๆ เริ่มมีปัญหาสุขภาพ ไม่ว่าจะเป็นระบบทางเดินหายใจ หรือระคายเคืองตาและผิวหนัง