ก่อนลูกอายุสามขวบ ซึ่งเป็นวัยที่ลูกต้องเข้าโรงเรียนอนุบาล คุณพ่อคุณแม่ควรฝึกให้ลูกช่วยเหลือตัวเองในการทำกิจวัตรประจำวันต่างๆ เพื่อเตรียมปรับตัวให้เข้ากับสิ่งแวดล้อมและเพื่อนใหม่ในโรงเรียน ดังนี้
เด็กวัย 1-4 ขวบ เป็นวัยแห่งการเรียนรู้จากพฤติกรรม พอเห็นและก็ทำตาม คุณพ่อคุณแม่จึงเป็นเหมือนกระจกเงาของลูก ดังนั้นพฤติกรรมไหนที่ไม่อยากให้ลูกทำ หรือจดจำไปทำตามในอนาคต คุณพ่อคุณแม่ก็ควรระมัดระวังไม่ทำพฤติกรรมเหล่านั้นต่อหน้าลูก
ในสถานการณ์ที่ต่างคนต่างต้องการแสดงความคิดเห็นของตัวเอง เป็นเรื่องง่ายที่จะมีการไม่ยอมรับฟังกันเกิดขึ้น คุณพ่อคุณแม่หลายคนเผลอใช้อำนาจความเป็นพ่อแม่หรือความเป็นผู้ใหญ่ตัดสิทธิ์และริดรอนการแสดงความเห็นของลูก ด้วยการออกคำสั่ง ‘ห้ามเถียง’
การอบรมสั่งสอนให้ลูกเป็นเด็กที่มีพฤติกรรมเหมาะสมกับการดุลูกเป็นของคู่กัน เพราะที่คุณพ่อคุณแม่ดุ ก็เพื่อให้ลูกเกิดการเรียนรู้และแก้ไข ดุเพื่อให้ลูกเข้าใจว่าไม่ควรทำความผิดซ้ำอีก แต่การดุหรือตำหนิลูกไม่ถูกวิธี จะส่งผลให้ลูกสูญเสียความเชื่อมั่นและไม่เห็นคุณค่าในตัวเอง อีกทั้งยังลดคุณภาพความสัมพันธ์ภายในครอบครัวอีกด้วย
ว่ากันว่า กรุ๊ปเลือดของคนเรา บอกอะไรที่เกี่ยวข้องกับตัวเราได้มากกว่าที่คิด รวมถึงการทำนายลักษณะนิสัยของเด็กๆ ซึ่งเคยมีการทดลองที่พอจะบอกได้ว่าเด็กแต่ละกรุ๊ปเลือด มักจะมีนิสัยใจคอเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร
การโพสต์รูปลูกลงโซเซียลมีเดียอาจจะดูเหมือนเป็นเรื่องธรรมดาที่คุณพ่อคุณแม่ทุกคนทำได้ แต่แท้จริงอาจสร้างอันตรายให้กับลูกได้มากกว่าที่คุณคิด ก่อนโพสต์รูปลูกหรือแม้แต่เด็กๆ ทั่วไป ผู้ใหญ่อย่างเราควรรู้เท่าทันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นจากการกดโพสต์และแชร์รูปน่ารักของเด็กๆ กันค่ะ
M.O.M เข้าใจดีว่าคุณพ่อคุณแม่ย่อมอยากใช้โซเซียลมีเดียเป็นเสมือนไดอารี่บันทึกความทรงจำ และแชร์ความน่ารักน่าเอ็นดูของลูก แต่อาจจะลืมคิดไปว่า การโพสต์รูปลูกแต่ละครั้ง อาจจะสร้างอันตรายให้ลูกคุณมากกว่าที่คิด
คำพูดของคุณพ่อคุณแม่มีอิทธิพลกับจิตใจของลูก เป็นกำลังใจที่ยิ่งใหญ่ และสร้างพลังให้กับลูกได้เสมอ โดยเฉพาะในเวลาที่ลูกผิดหวังจากการทำกิจกรรม แข่งขันความสามารถ หรือแข่งขันกีฬา กำลังใจจากคุณพ่อคุณแม่เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ลูกเป็นเด็กที่เข้มแข็งอีกครั้ง
แนวคิดมอนเตสซอรี (Montessori) เป็นที่ยอมรับและรู้จักมากขึ้นในกลุ่มคุณพ่อคุณแม่รุ่นใหม่ เพราะเป็นแนวคิดที่เน้นการให้เด็กเป็นศูนย์กลางของการเรียนรู้ ด้วยความเชื่อมั่นในศักยภาพในตัวเด็ก ให้เด็กรับบทนำในการดำเนินชีวิตของตัวเอง
จากแนวคิด ‘ทำไมเราควรปล่อยให้เด็กเล่นน้ำฝน’ ที่ หมอวิน—ผศ.นพ. วรวุฒิ เชยประเสริฐ เผยแพร่ลงในเพจ เลี้ยงลูกตามใจหมอ ทำให้การแสดงความคิดเห็นจากคุณพ่อคุณแม่แตกออกเป็นหลายทาง บ้างก็เห็นด้วยกับคุณหมอที่ว่า ปล่อยให้ลูกเล่นน้ำฝนบ้างก็เป็นเรื่องดี ในขณะที่คุณพ่อคุณแม่อีกหลายคนก็แสดงความเป็นห่วงว่าการเล่นน้ำฝนจะส่งผลเสียต่อสุขภาพของลูกเสียมากกว่า