หลังพบผู้ติดเชื้อ COVID-19 ของการระบาดรอบใหม่ในไทยเมื่อเดือนธันวาคมที่ผ่านมา ทำให้หลายคนต้องกักตัวอยู่ที่บ้าน คุณพ่อคุณแม่บางคนก็ต้องกลับมาทำงานที่บ้านอีกครั้ง รวมถึงลูกน้อยเองก็ต้องเปลี่ยนแผนกลับมาเรียนออนไลน์กันอีกครั้ง
ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า คุณพ่อคุณแม่รุ่นใหม่ทุกคนให้ความสำคัญ และอยากปลูกฝังให้ลูกมีทักษะการสื่อสารภาษาอังกฤษซึ่งจัดเป็นภาษาสากล (Global Language) ที่ใช้ในการติดต่อสื่อสารในระดับโลกได้ดี ไม่น้อยไปกว่าภาษาไทย
ตอนลูกยังเล็ก เวลาที่คุณพ่อคุณแม่ทำอะไร เจ้าตัวน้อยก็ชอบเข้ามาป่วนหรืออยากมีส่วนร่วมโดยที่ไม่ได้ร้องขอ เห็นคุณแม่กวาดบ้านก็จะทำ เห็นคุณพ่อรดน้ำต้นไม้ก็อยากช่วย แต่พอถึงเวลาที่ลูกควรจะเรียนรู้การทำงานบ้านหรือมีหน้าที่รับผิดชอบของตัวเองจริงๆ แล้ว ทำไมนะทำไม ลูกถึงได้อิดออด ไม่อยากทำ และดูเหมือนจะกลายเป็นเด็กเกียจคร้านขึ้นมาได้
การดื้อและซน จัดเป็นหนึ่งในพฤติกรรมตามธรรมชาติของเด็ก แต่ถ้าคุณพ่อคุณแม่เริ่มสังเกตเห็นว่าความดื้อและซนของลูก เริ่มหนักข้อและเหมือนจะมากขึ้นเรื่อยๆ จนผิดปกติไปจากเด็กทั่วไปแล้วละก็ เราอยากให้คุณพ่อคุณแม่ลองทำความรู้จักกับอาการ ODD (Oppositional Defiant Disorder) หรือภาวะดื้อต่อต้าน
“รักหรอกจึงหยอกเล่น” ประโยคที่ผู้ใหญ่บางคนชอบใช้เป็นเหตุผลหรือข้ออ้าง เวลาที่เล่นกับเด็กแล้วทำให้เด็กโกรธ ไม่พอใจ หรือแม้แต่ร้องไห้ออกมา ผู้ใหญ่ส่วนมากเวลาเห็นเด็กน่ารักน่าเอ็นดูก็อยากเข้าไปเล่นหรือสร้างความคุ้นเคยด้วย ถึงแม้จะเต็มไปด้วยเจตนาที่ดีก็จริง แต่การเข้าหาเด็กด้วยการแกล้งหรือหยอกล้อด้วยการเห็นเป็นเรื่องสนุก อาจจะส่งผลเสียกับเด็กได้มากกว่าที่คิด
ช่วงเวลาที่โรงเรียนเลื่อนกำหนดการเปิดภาคเรียน หรือบางโรงเรียนเปลี่ยนมาใช้วิธีเรียนออนไลน์ การอยู่บ้านทั้งวันของลูกทำให้คุณพ่อคุณแม่ต้องเริ่มมองหาตัวช่วยหรือกิจกรรมให้ลูกทำระหว่างวันเพื่อฆ่าเวลาและพัฒนาทักษะด้านต่างๆ ให้ลูก เป็นการปูพื้นฐานให้ลูกเป็นเด็กรักการเรียนรู้ และพัฒนาสมองเพื่อเตรียมความพร้อมก่อนกลับไปเรียนที่โรงเรียนอีกครั้ง