คุณพ่อคุณแม่เคยเจอปัญหาลูกชอบมีอาการครั่นเนื้อครั่นตัวเหมือนจะเป็นไข้ พอตกกลางคืน ก็พบว่า ลูกเป็นไข้ ตัวร้อนจี๋ ต้องคอยเช็กอาการตลอดทั้งคืน
นอกจาก ไวรัส RSV ที่คุณพ่อคุณแม่ส่วนมากคุ้นเคย ยังมี ไวรัส hMPV ที่กำลังระบาดในเด็กอนุบาลเช่นเดียวกัน
สาเหตุที่ทำให้ ลูกไม่สบาย ในช่วงวัยนี้ ส่วนหนึ่งเป็นเพราะภูมิคุ้มกันของลูกยังทำงานได้ไม่เต็มที่ ในขณะที่สภาพแวดล้อมช่างเอื้ออำนวยต่อการรับเชื้อโรคเข้าร่างกายมากกว่าอยู่ที่บ้าน
เวลาฝนตก คุณพ่อคุณแม่มักพยายามห้ามไม่ให้ลูกออกไปเล่นน้ำฝน เพราะเพราะกลัวว่าจะทำให้ลูกเป็นหวัดและไม่สบายได้ เพื่อคลายความสงสัยว่า หากปล่อยให้ ลูกเปียกฝน แล้วจะทำให้เป็นหวัดได้ง่ายจริงหรือเปล่า หรือควรปกป้องดูแลลูกในฤดูฝนอย่างไร
และเมื่อลูกป่วยจนต้องแอดมิตทีไร ไม่ใช่แค่ลูกที่จะรู้สึกวิตกกังวล ไม่สบายใจ และหวาดกลัวคุณหมอหรือวิธีการรักษา แต่คุณพ่อคุณแม่เองก็พลอยรู้สึกเป็นห่วง กังวล จัดการอะไรไม่ถูก และไม่สบายใจตามลูกไปด้วย
ในช่วงนี้ที่เด็กๆ เริ่มกลับไปเรียนที่โรงเรียนได้ตามปกติและเป็นช่วงฤดูที่เข้าสู่หน้าฝน คุณพ่อคุณแม่อาจจะสังเกตได้ว่าลูกเริ่มมีอาการป่วยได้ง่าย ซึ่งส่วนมากจะเป็นอาการไข้หวัด แต่อาการป่วยที่ลูกกำลังเป็นอาจจะไม่ใช่อาการไข้หวัดธรรมดา คุณพ่อคุณแม่มักจะเข้าใจผิดกันว่าการที่ลูกมีน้ำมูกสีเขียว ซึ่งโดยทั่วไปเด็กจะมีน้ำมูกใสในวันแรก ต่อมาน้ำมูกอาจจะเปลี่ยนเป็นสีเขียวได้ เกิดจากการที่เม็ดเลือดขาวในร่างกายหลั่งสารออกมากำจัดเชื้อโรค ดังนั้นการที่มีน้ำมูกเหลืองหรือเขียวไม่ได้แปลว่ามีการติดเชื้อแบคทีเรียแทรกซ้อนเสมอไป การดูแลรักษาไข้หวัด สามารถรักษาตามอาการ เช่น ทานยาลดไข้ เช็ดตัวลดไข้..