แม้ไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น แต่เราต้องยอมรับความจริงว่า สิ่งที่ไม่เคยหายไปจากหน้าข่าวสารหรือการรับรู้ของเราเลย ก็คือเหตุการณ์ความรุนแรงในครอบครัว การกระทำและพฤติกรรมที่เป็นการละเมิดต่อเด็ก อาจจะเป็นข่าวใหญ่บ้าง เล็กบ้าง อยู่ในความสนใจช่วงเวลาหนึ่ง หรือเป็นเพียงกระแสที่ดังขึ้นมาเพียงวูบแล้วก็ดับไปก็ตาม
M.O.M มีโอกาสพูดคุยกับผู้บริหาร และคุณครูของโรงเรียนนานาชาติโชรส์เบอรี กรุงเทพ ริเวอร์ไซด์ มาแล้วหลายครั้ง แต่ละครั้งก็จะอยู่ในขอบเขตเรื่องของเด็กปฐมวัยไปถึงชั้นประถมที่เราคุ้นเคย จึงเหมือนเรากำลังค่อยๆ หยิบจิ๊กซอว์มาเรียงต่อกัน เป็นภาพเส้นทางการเติบโตของเด็กคนหนึ่งในรั้วของโรงเรียนแห่งนี้
เพราะช่วงเวลาปฐมวัยของเด็กๆ เป็นวัยที่สำคัญที่สุดในการสร้างทัศนคติที่ดีต่อการเรียนรู้ การคัดเลือกบุคลากรที่จะทำงานกับเด็กในช่วงชั้น Junior School จึงต้องเป็นไปอย่างพิถีพิถัน เพื่อให้ได้คนที่มีประสบการณ์ด้านการสอน มีความเข้าใจ และสามารถส่งแรงบันดาลใจให้กับเด็กนักเรียนได้
กว่าสองปีแล้วที่นักอ่านรุ่นเล็ก (และรุ่นใหญ่) ชาวไทยได้รู้จักกับสองตัวละครสุดเพี้ยน ตาตุและปาตุ ผ่านหนังสือเล่มไม่หนาเท่าไหร่ แต่ทำไมถึงได้อัดแน่นไปด้วยเรื่องราวขวนหัว จินตนาการที่ชวนประหลาดใจ คิดได้ยังไงเนี่ย กลายเป็นกระแสบอกต่อกันในหมู่เด็ก จากเล่มแรก สู่เล่มที่สอง และล่าสุดเมื่อไม่กี่เดือนมานี้ หนังสือชุด ตาตุและปาตุ ก็เพิ่งได้แปลและตีพิมพ์เป็นภาษาไทยเป็นเล่มที่สี่ (บวกกับอีกหนึ่งสมุดกิจกรรม) เป็นที่เรียบร้อย
เมื่อสัปดาห์ก่อน มีข้อเสนอที่กลายเป็นทอล์กออฟเดอะทาวน์ คือการที่นักวิชาการด้านการศึกษาออกมาเสนอให้ ‘หยุดเรียนหนึ่งปี’ เพื่อแก้ไขปัญหาที่เกิดจากการเรียนออนไลน์ต่อเนื่องเข้าสู่ปีที่สองของเด็กไทยตั้งแต่ระดับอนุบาลไปจนถึงระดับอุดมศึกษา ความเคร่งเครียดนี้ไม่ได้ส่งผลต่อแค่ตัวเด็ก แต่ยังหมายรวมถึงคุณครู พ่อแม่ผู้ปกครอง ปู่ย่าตายาย และใครก็ตามที่อยู่ ‘หน้างาน’ และกำลังเผชิญปัญหารายวัน ที่ต้องแบกภาระงานเดิม เพิ่มเติมคือการทำงานรูปแบบใหม่ และดูเหมือนจะเป็นภาระและปัญหาที่ยังไม่ได้รับการเยียวยาเท่าที่ควร
นอกจากการให้ลูกได้วิ่งเล่นและออกกำลังกายแล้ว เด็กๆ จึงควรมีกิจกรรมที่จะช่วยพัฒนากล้ามเนื้อมัดเล็กและกระตุ้นความคิดสร้างสรรค์ ที่สามารถเล่นสนุกได้ภายในบ้าน ด้วยกิจกรรมง่ายๆ
เรื่องราวและรูปแบบการศึกษาของเด็กๆ ที่เพิ่งก้าวออกจากวัยอนุบาลที่เอาแต่เล่น เข้าสู่โลกของการเรียนรู้ในฐานะเด็ก ‘ชั้นหนึ่ง’ ทั้งหมดถูกเล่าออกมาในรูปแบบภาพยนตร์สารคดีความยาว 90 นาที ชื่อเรื่อง ชั้นหนึ่ง (First Grade) ที่เพิ่งเปิดฉายแบบออนไลน์ให้กับกลุ่มผู้สนใจที่ได้ลงทะเบียนไว้ล่วงหน้า และมีแผนการที่จะเข้าฉายในโรงภาพยนตร์เมื่อสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย
วันหนึ่งในแอปพลิเคชัน Clubhouse เราตั้งห้องคุยว่าด้วยบทบาทของปู่ย่าตายายกับการเลี้ยงเด็กในยุคสมัยนี้ ด้วยความตั้งใจที่อยากจะเข้าใจมุมคิดของฝั่งผู้ใหญ่ด้วย จึงได้ชวน พี่ติ่ง—สุภาวดี หาญเมธี ประธานกรรมการบริหารสถาบันรักลูกกรุ๊ป (RLG) อดีตบรรณาธิการนิตยสารรักลูก และผู้ร่วมก่อตั้งโรงเรียนเพลินพัฒนา เข้ามาร่วมวงพูดคุย ในฐานะ คุณย่า ของหลานชายวัยซนสองคน
เมื่อเจ้าโควิด-19 จอมวายร้ายกลับมา ก็พาให้ทุกคนกลับสู่เทศกาลอยู่บ้านกับลูกกันอีกครั้ง แม้จะมีประสบการณ์กันมาแล้วจากเมื่อครั้งก่อน จนทำให้เก่งกันขึ้นบ้าง แต่พอทุกอย่างมารวมกัน ทั้งงาน งานบ้าน และลูก ก็ทำเอาคุณพ่อคุณแม่หลายบ้านปวดหัวกันอยู่ไม่น้อย
ทุกวันศุกร์ โรงเรียนจะจัดให้เป็นวัน free play หรือวัน ‘เล่นอิสระ’ ที่จะจัดฐานกิจกรรมจากปกติที่เด็กๆ เล่นในห้องเรียนมาขยายให้ใหญ่ขึ้น จากที่เคยมีพื้นที่และขอบเขตขนาดเท่าห้อง วันนี้ก็จะขยายอาณาเขตให้กว้างเท่ารั้วโรงเรียน ขยายช่วงเวลาให้นานขึ้น เพื่อนที่เคยเล่นและเจอกันแค่ในห้อง ก็จะเปิดกว้าง กลายเป็นเด็กทั้งโรงเรียน ทุกวัย ทุกห้อง ลงมาเข้าฐานเล่นร่วมกันได้ ‘ตามใจชอบ’
- 1
- 2
- 3
…
- 5
- Next Page →