ในยุคที่เศรษฐกิจอยู่ในช่วงขาลง แต่รายจ่ายของครอบครัวไม่มีวี่แววว่าจะลดลงไปตามสภาพเศรษฐกิจ คุณพ่อคุณแม่ทุกครอบครัวย่อมต้องอยากทำงานมากขึ้น หารายได้มากขึ้น เพื่อความเป็นอยู่ที่ดีและความมั่นคงของครอบครัว แต่ยิ่งทำงานมากขึ้นเท่าไร ก็เป็นไปได้ว่าคุณพ่อคุณแม่อาจหลงลืมที่จะให้ความสำคัญกับการมีเวลาให้ครอบครัว
หนึ่งในปัญหาโลกแตกของคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกในวัยเรียนได้พบเจอก็คือ การหากลวิธีมารบเร้าให้ลูกยอมนั่งลงและทำการบ้านแต่โดยดี สำหรับเด็กๆ แค่ไปเรียนหนังสือแต่ละวันก็ต้องใช้พลังงานมากมายมหาศาล กลับบ้านมาก็อยากจะได้เล่น ได้พักผ่อนตามอัธยาศัย แต่การบ้านก็เหมือนมารที่คอยขัดขวางไม่ให้ลูกได้ใช้เวลาที่บ้านอย่างที่ตั้งใจ ส่วนคุณพ่อคุณแม่ ถ้าวันไหนได้เห็นลูกทำการบ้านด้วยความตั้งใจและมีสมาธิ (แม้จะไม่บ่อยนัก) ก็รู้สึกชื่นใจขึ้นมาอย่างบอกไม่ถูก
ลูกจะเติบโตขึ้นมามีนิสัยใจคออย่างไร การเลี้ยงดูของคุณพ่อคุณแม่นี่แหละที่มีส่วนสำคัญในการกำหนดทิศทางการเติบโตของลูกน้อย แม้จะมีบางครั้งที่ทัศนคติของคุณพ่อคุณแม่แตกต่างกันจนเกิดเป็นความขัดแย้งในการเลี้ยงดูลูก ซึ่งก็ต้องยอมรับว่าเป็นเรื่องที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกครอบครัว
เมื่อลูกน้อยเติบโตถึงวัยที่ต้องเข้าโรงเรียน การพบเจอกับสังคมใหม่ เจอเพื่อนร่วมห้องหรือร่วมโรงเรียนเดียวกัน เป็นช่วงเวลาที่ทำให้ลูกได้รู้จักความสัมพันธ์รูปแบบใหม่ และสถานะใหม่ของตัวเอง นั่นก็คือการเป็น ‘เพื่อน’ ซึ่งทำให้ลูกต้องเรียนรู้ที่จะปรับตัวให้สามารถเป็นเพื่อนที่ดีและอยู่ร่วมกับคนอื่นในสังคมได้
ถ้าหากปล่อยให้ลูกขาดความรู้เท่าทันหรือวิเคราะห์สิ่งที่ได้รับมาจากอินเทอร์เน็ตไม่เป็น โดยเฉพาะการเสพสื่อหรือคอนเทนต์ที่เต็มไปด้วยข้อความหรือถ้อยคำที่ใช้ตำหนิ ต่อว่า หรือโจมตีคนอื่น ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่จึงควรมีวิธีให้ความรู้ความเข้าใจลูก และสร้างภูมิคุ้มกันเมื่อลูกต้องเติบโตและอยู่ในยุคที่มี hate speech ในสื่อต่างๆ รอบตัว ด้วยวิธีการดังต่อไปนี้
สำรวจกระเป๋าสตางค์ของคุณพ่อคุณแม่ที่มีลูกอยู่ในวัยอนุบาลว่าส่วนใหญ่ เปิดเทอมครั้งนี้ แต่ละครอบครัวมีภาระค่าใช้จ่ายกันอย่างไรบ้าง