ความผิดหวังเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องพบเจอ และไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่หรือเด็กก็ต่างต้องเรียนรู้ที่จะเผชิญกับความผิดหวังอย่างเลี่ยงไม่ได้ ซึ่งก็เป็นเรื่องธรรมดาที่เรื่องผิดหวังของเด็กๆ อาจจะดูเล็กน้อยในสายตาของคุณพ่อคุณแม่ แต่สำหรับลูกแล้วความผิดหวังเล็กๆ น้อยๆ นี่แหละ ที่บั่นทอนความรู้สึกและจิตใจของเขาให้อ่อนแอลงได้
บางครั้งคุณพ่อคุณแม่ก็อาจทำเรื่องผิดพลาดโดยเฉพาะกับลูกไปบ้าง เช่น ไปรับลูกช้า ผิดสัญญากับลูก เผลอใช้อารมณ์กับลูก ฯลฯ บางคนอาจมองว่าเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่สำหรับเด็กๆ แล้ว หลายครั้งที่ความผิดพลาดของคุณพ่อคุณแม่ ถ้าไม่ได้รับการอธิบายหรือคำขอโทษ เหตุการณ์นั้นก็จะอยู่ในความทรงจำที่ไม่ดีของลูกต่อไป
การพาลูกออกไปกินข้าวนอกบ้าน ถือว่ากิจกรรมที่ดีและจำเป็นสำหรับทุกครอบครัว ไม่ว่าจะเพื่อเปลี่ยนบรรยากาศการกินข้าวร่วมกัน ทำให้ลูกสนุกกับการกินมากขึ้น แต่สิ่งที่คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรลืมเลยก็คือการสอนให้ลูกรู้จัก ‘มารยาทบนโต๊ะอาหาร’ และปลูกฝังให้ลูกทำจนเคยชิน
โดยทั่วไปแล้ว เด็กแต่ละคนอาจจะมีพัฒนาการด้านต่างๆ ช้าหรือเร็วแตกต่างกัน เด็กบางคนอาจยังพูดไม่ได้หรือพูดได้ไม่เป็นภาษา คุณพ่อคุณแม่ไม่จำเป็นต้องตื่นตระหนกก็จริง แต่ก็เป็นสิ่งคุณพ่อคุณแม่ควรสังเกตพัฒนาการลูกอย่างใกล้ชิด เพราะเป็นไปได้ว่าอาจมีความผิดปกติบางอย่างที่ควรได้รับการแก้ไขอย่างถูกต้อง
เด็กไม่ได้เกิดมาพร้อมความเกลียดชังและแก่งแย่งแข่งขัน แต่โลกจะสอนให้เขาค่อยๆ รู้จักมันขึ้นมาทีละน้อย หน้าที่สำคัญของคุณพ่อคุณแม่ จึงเป็นการสร้างทัศนคติที่ดี สอนให้ลูกรู้เท่าทันกิเลสที่แฝงอยู่ในตัวเราทุกคน สอนให้ยับยั้งความเกลียดชัง และหาสันติวิธีในการดำรงชีวิต เพื่อที่โลกของเราจะได้ไม่ต้องพบเจอกับสงครามอีก
ปัจจุบันทุกคนพยายามสร้างความเท่าเทียมให้เกิดขึ้นในสังคมโลก ซึ่งความเท่าเทียมจะเกิดขึ้นได้ก็ต่อเมื่อทุกคนเปิดใจยอมรับ และให้คุณค่าของความเป็นคนกับทุกคนโดยเท่าเทียมกัน
ผู้เขียนจึงหยิบยกประเด็น การเปิดใจกว้างมานำเสนอผ่านนิทานเรื่อง ‘เปิดประตูให้หน่อย’